นายกรัฐมนตรี นาโอโตะ คัง ระบุว่า ปริมาณกัมมันตรังสีรอบๆโรงไฟฟ้าฟูกูชิมะบนชายฝั่งตะวันออกของญี่ปุ่นเพิ่ม ขึ้นอย่างรวดเร็ว ด้านโฆษกรัฐบาลยืนยันว่า กัมมันตรังสีอยู่ในระดับสูงมากจนอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของมนุษย์ และสามารถตรวจจับได้ไกลถึงกรุงโตเกียว ซึ่งอยู่ห่างออกไป 250 กิโลเมตร
http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9540000033216
แถมมีเตาระเบิดเพิ่มอีก ... 3 วันนี้ยังลุ้นอาฟเตอชอค ระดับ 7 อีก ...
ย้อนหลังมานี่ ถือว่าเป็น 10 ปีแห่งความตกต่ำของคนญี่ปุ่นเลย เศรษฐกิจก็ตกต่ำ (ปัจจุบันได้รับสมญาแมวอ้วน เมื่อก่อนได้รับสมญานามสัตว์เศรษฐกิจ) คนตกงานเพิ่ง คนฆ่าตัวตายเพิ่ม แถมเจอปัญหาภัยธรรมชาติอีก น่าสงสารคนญี่ปุ่นยุคนี้จริง ๆ
ล่าสุด
มีข่าวใหม่มาครับ
“ไอเออีเอ” เผยโรงไฟฟ้าญี่ปุ่นปลดปล่อย “กัมมันตรังสี” สู่ชั้นบรรยากาศโดยตรงแล้ว
เอเจนซี - ญี่ปุ่นแจ้งแก่ทบวงการปรมาณูระหว่างประเทศ (ไอเออีเอ) ว่า เชื้อเพลิงนิวเคลียร์ที่ใช้แล้วกำลังเกิดการเผาไหม้ภายในเตาปฏิกรณ์ ซึ่งได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหว ส่งผลให้สารกัมมันตรังสีแพร่ออกสู่ชั้นบรรยากาศโดยตรง ไอเออีเอ เผยวันนี้ (15)
ไอเออีเอ แถลงรายงานจากทางการญี่ปุ่น ว่า โรงไฟฟ้าฟูกูชิมะแผ่สารกัมมันตรังสีออกสู่ชั้นบรรยากาศราว 400 มิลลิซีเวิร์ตต่อชั่วโมง
ไอเออีเอ ไม่ได้ให้รายละเอียด หรือแสดงการเปรียบเทียบระดับรังสี แต่ข้อมูลจากสมาคมนิวเคลียร์โลก ระบุว่า การได้รับกัมมันตรังสีเกิน 100 มิลลิซีเวิร์ตต่อปี อาจก่อให้เกิดมะเร็งได้
“ทางการญี่ปุ่น แจ้งว่า การเผาไหม้ดังกล่าวอาจเกิดจากการระเบิดของก๊าซไฮโดรเจน” ไอเออีเอ แถลง
รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศวันนี้ (15) ว่า ระดับกัมมันตรังสีรอบโรงไฟฟ้าฟูกูชิมะเพิ่มสูงขึ้นหลังการระเบิดภายในอาคาร เตาปฏิกรณ์ 2 แห่ง ส่วนสถานทูตฝรั่งเศสในกรุงโตเกียว ก็เตือนว่า กระแสลมอาจพัดพาเอาสารกัมมันตรังสีระดับต่ำลอยไปถึงเมืองหลวงได้ภายในไม่กี่ ชั่วโมง
ไอเออีเอ ได้รับแจ้งว่า “เชื้อเพลิงใช้แล้วภายในบ่อพักของเตาปฏิกรณ์หมายเลข 4 โรงไฟฟ้าฟูกูชิมะ ไดอิจิ กำลังลุกไหม้ ทำให้กัมมันตรังสีถูกปลดปล่อยออกสู่ชั้นบรรยากาศ”
“อัตราการปลดปล่อยอยู่ที่ประมาณ 400 มิลลิซีเวิร์ตต่อชั่วโมง ซึ่งทางการญี่ปุ่นคาดว่า การเผาไหม้อาจเกิดจากการระเบิดของก๊าซไฮโดรเจน”
นักวิจัยระบุว่า ร่างกายมนุษย์จะได้รับสารกัมมันตรังสีประมาณ 12 มิลลิซีเวิร์ต ต่อการทำซีทีสแกนหัวใจ 1 ครั้ง
http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9540000033386
เรื่องใหญ่เลย คนในเมืองหลวงโตเกียว ก็อันตรายแล้วนะนี่ แถมประเทศเพื่อนบ้าน ก็น่ากลัว