Google Bard คืออะไร ? AI คู่แข่ง ChatGPT ที่คุณไม่ควรพลาดในการทำ SEO
Google Bard เป็น AI ของ Google ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อไม่นานมานี้ ใช้งานง่ายและรองรับภาษาไทย บทความนี้จะตอบคำถามเกี่ยวกับ Google Bard ทั้งหมด เช่น
Google Bard คืออะไร น่าใช้หรือไม่? แตกต่างกับ
ChatGPT ในเรื่องการทำ SEO ไหม? หรือ
Google Bard AI เหมาะกับการทำ SEO หรือเปล่า? เราจะมาหาคำตอบกัน
Google Bard คืออะไร ?Google Bard คือ Chatbot AI ของ Google ที่พัฒนามาเพื่อแข่งขันกับ ChatGPT โดยสามารถตอบคำถามในเชิงสนทนาได้เหมือนมนุษย์ โดยใช้โมเดลภาษา LaMDA ไม่ใช่แพนด้าเด้อ 555
โดย
Google Bard AI ก็ AI ของ Google นั้นแหละ มีหน้าตาและวิธีใช้ง่าย คล้ายๆ ChatGPT เลย ใครเคยได้ลองใช้งานกันบ้างยังเอย ผมได้ใช้แล้วบอกเลยว่าดีเลยแหละ ก็คือ ตอบคำถามในเชิงสนทนาเหมือนๆกัน เป็น AI ที่ได้รับการพัฒนามาเพื่ออำนวยความสะดวกในการค้นหาข้อมูลในเรื่องต่าง ๆ ในยุค AI จะเสิร์ชหาข้อมูลอะไรก็ง่าย พิมพ์คำค้นหา ก็มี AI มาช่วยหาข้อมูลให้เราแบบไม่ต้องเปิดดูหลายๆเว็บเลย ดีใช่ไหมละ ขนาด Chatgpt ยังบูมเลย จะบอกว่าใครยังไม่เคยลองใช้ Bard ห้ามพลาดบอกเลย
หน้าตาก็คือเป็นหน้าแชท มีช่องให้ใส่ Prompt (หรือคำสั่ง) ด้านล่างของหน้าจอ ตัวอย่างก็แบบนี้เลย
Bard AI ยังสามารถทำงานร่วมกับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของ Google ได้ เช่น
Gmail, Google Docs, Google Drive, Google Maps และ YouTube อย่างไรก็ตาม ฟังก์ชันนี้ยังไม่พร้อมใช้งานในประเทศไทย แต่ลองหาอ่านข่าวดู คือมันช่วยให้การใช้ชีวิตในยุค Ai สะดวกสบายมากเลย.
ที่สำคัญคือ
Bard AI นั้นฟรี และใช้งานได้แบบไม่จำกัด ด้วย ยังๆ ยังไม่พอ ข้อมูลเวลา AI คิดให้เราก็แบบบอกเลยว่า ดียยย์ เริ่มสนใจกันแล้วละสิ มาๆ มาดูว่าใช้งานยังไง
Google Bard ใช้ยังไง?วิธีใช้งาน Google Bard ทำได้ 2 วิธี คือผ่านเว็บไซต์
https://bard.google.com/ หรือติดตั้ง Extension Google chome ชื่อ
Search Everywhere with Google Bardหากผ่านเว็บไซต์อย่าลืมสมัครสมาชิกกันก่อนด้วยเด้อ ปล. หากใครมี Account Google หรือ Google Workspace ก็ log-in ผ่านเมลล์นั้นได้เลย ทำทีเดียวใช้ได้ทุกคนในบริษัท 5555
ได้เวลามาเริ่มไปพร้อมกัน
เมื่อเข้ามาแล้ว คุณจะพบกับช่องแชทที่คุณสามารถพิมพ์ข้อความหรือคำสั่งอะไรก็ได้ เพื่อให้ Bard AI แสดงผลออกมาตามที่ต้องการ
ความสามารถหลัก ๆ ของ Bard AI ประกอบด้วย
- การตอบคำถาม
- การแปลภาษา
- การคิด Content หรือไอเดียของ Content
- การคิด Headline ของ Content หรือ E-mai
- การค้นหาภาพหรือวิดีโอ
นอกจากนี้
Google Bard รองรับภาษาไทยแล้ว ดังนั้น คุณจึงสามารถสั่งมันด้วย Prompt ภาษาไทยได้เลย เจ๋งกว่า ChatGPT อีกนะจะบอกให้
และถ้าสั่ง Bard ให้เขียนภาษาไทย ขอบอกเลยว่าไม่มีปัญหา เพราะภาษาของ Bard AI กระชับ เข้าใจง่าย ไม่แข็งทื้อเกินไป
Google Bard VS ChatGPT แตกต่างกันยังไงGoogle Bard และ ChatGPT ทำงานคล้ายกัน จากรูปภาพข้างบน ก็จะเห็นข้อแตกต่างหลัก ๆ ดังนี้
- โมเดลภาษา: Google Bard ใช้โมเดลภาษา LaMDA ในขณะที่ ChatGPT ใช้โมเดลภาษา GPT-3.5 และ GPT-4
- ข้อมูลที่ใช้ประมวลผล: Google Bard ประมวลผลจากฐานข้อมูลแบบเรียลไทม์ ในขณะที่ ChatGPT ประมวลผลจากชุดฐานข้อมูลที่นำมาใช้ในการเทรนด์ถึงปี 2021
- การเข้าถึง: Google Bard ใช้งานได้ฟรีสำหรับผู้ใช้ Google Account ที่มีอายุมากกว่า 18 ปี ในขณะที่ ChatGPT ใช้งานได้ฟรีสำหรับทุกคน
- การเสียเงิน: Google Bard สามารถใช้งานได้ฟรี ในขณะที่ ChatGPT เวอร์ชัน 4.0 ต้องเสียเงิน
Google Bard กับการทำ SEOหลังจากที่ลองใช้ด้วย Prompt หลาย ๆ รูปแบบ ผมมองว่า Bard AI เป็นตัวช่วยที่ไว้ใจได้ใน การทำ SEO โดย Bard AI นี้ มีประโยชน์หลายด้าน เพราะ Chatbot AI ถูกพัฒนามาเพื่ออำนวยความสะดวกในการค้นหาข้อมูลในเรื่องต่าง ๆ ซึ่งสามารถตอบคำถามในเชิงสนทนาได้เหมือนมนุษย์ ซึ่งก็ไม่แปลกที่จะคนดึงศักย์ภาพและความสามารถนี้ นำมาใช้ในการทำ SEO ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ประโยชน์ของ Google Bard ในการทำ SEO1.ช่วยคิด HeadlineHeadline เป็นองค์ประกอบที่สำคัญของเนื้อหา และการทำ SEO เพราะเป็นส่วนที่ดึงดูดความสนใจของผู้ค้นหาและช่วยให้เนื้อหาถูกคลิกเข้ามาอ่าน Google Bard สามารถช่วยคิด Headline ที่น่าสนใจและสอดคล้องกับเนื้อหาได้
2.ช่วยเขียน Meta DescriptionMeta Description เป็นข้อความสั้น ๆ ที่ปรากฏใต้ URL ของเนื้อหาในผลการค้นหา หรือรายละเอียดคำอธิบายเนื้อหาของหน้านั้นแหละ ซึ่ง Google Bard สามารถช่วยเขียน Meta Description ที่กระชับ ชัดเจน และดึงดูดความสนใจได้
3.ช่วยวางโครงสร้างของ Contentโครงสร้างของเนื้อหามีความสำคัญต่อ การทำ SEO เพราะช่วยให้ Google เข้าใจเนื้อหาและจัดอันดับให้ดีขึ้น Google Bard สามารถช่วยวางโครงสร้างของเนื้อหาให้เหมาะสมกับหัวข้อและกลุ่มเป้าหมายได้. ให้คิด H1, H2 , H3 หรือคิดคอนเทนต์คอนเทนต์ของ หัวข้อนั้นๆยังได้เลย จะให้มี intro มีสรุปก็ทำได้สะดวกสบายจริงๆยุคนี้
4.ช่วยเขียน ContentGoogle Bard สามารถช่วยเขียน Content ได้ทั้งบางส่วนหรือทั้งบทความ ก็ยังทำได้ โดยบางครั้งจะมี Source ข้อมูลมาให้เราด้วย ซึ่งจะช่วยให้ประหยัดเวลาและพลังงานในการเขียน Content ให้ช่วยคิด ช่วยเขียนบทความ SEO Content ให้เราได้ด้วยและที่สำคัญเขียนได้ออกมาดีมาก แนะนำให้ลองดูห้ามพลาด
ข้อควรระวังในการใช้ Google Bard ในการทำ SEOถึงแม้ว่า Google Bard จะเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ใน การทำ SEO แต่ก็มีบางสิ่งที่ควรระวัง เช่น
- ควรตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล
Google Bard อาศัยข้อมูลจากการค้นหาของ Google ดังนั้น ข้อมูลที่อยู่ใน Content ที่ Google Bard เขียนขึ้นอาจไม่ถูกต้องทั้งหมด ดังนั้น ควรตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลก่อนเผยแพร่ (เช็คความถูกต้องกันด้วยเด้ออ เพื่อการติดอันดับ SEO ที่สูงขึ้นของเราๆ)
- ควรปรับแต่งเนื้อหาให้เหมาะสมกับ SEO
แม้จะใช้ Google Bard ช่วยเขียน Content แต่ก็ต้องปรับแต่งเนื้อหาให้เหมาะสมกับ SEO ด้วย เช่น ใส่คำหลักที่เกี่ยวข้องในเนื้อหาอย่างเหมาะสม,
สรุป
Google Bard เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ใน
การทำ SEO โดยสามารถช่วยคิด Headline, Meta Description, วางโครงสร้างของ Content และช่วยเขียน Content ได้ ซึ่งจะช่วยให้ประหยัดเวลาและพลังงานในการทำ SEO อย่างไรก็ตาม ควรตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลและปรับแต่งเนื้อหาให้เหมาะสมกับ SEO ด้วย
Google Bard เป็นคู่แข่งที่ทรงพลังของ ChatGPT และ AI Chatbot ตัวอื่น ๆ เพราะนอกจากจะสามารถทำงานได้เหมือนกันและทำงานได้ดีแล้ว ยังมีฟังก์ชันบางอย่างที่ Chatbot ตัวอื่นไม่มีอีกด้วย
นอกจากนี้ การมาถึงของ Bard ยังทำให้การแข่งขันกันทำคอนเทนต์ SEO เข้มข้นขึ้นกว่าเดิม เพราะใคร ๆ ก็สามารถเป็นนักเขียนคอนเทนต์ SEO ที่มีคุณภาพได�