ในปัจจุบันการแข่งขันทางโลกออนไลน์ ได้กลายมาเป็นการแข่งขันที่รวดเร็ว ดุเดือด ดุดัน ไม่เกรงใจใคร และรวมไปถึงจำเป็นอย่างมาก เพราะการค้าออนไลน์ ช่วยทำให้คุณได้เปรียบคู่แข่ง และเพิ่มยอดขาย/บริการต่างๆอีกด้วย
ดังนั้น
SEO 
และ
SEM จึงกลายมาเป็นช่องทางการเพิ่มยอดเข้าชมและยอดขายให้กับเว็บไซต์ นั้นๆ ซึ่งถ้าจะอธิบายโดยสรุป SEO คือการทำให้ติดหน้าค้นหาแบบฟรี (FREE!) ในขณะที่ SEM จะเป็นการทำให้ติดแบบเสียเงิน โดยเสียค่าโฆษณาให้กับเครื่องมือค้นหา (Search Engine) นั่นเอง
ซึ่ง SEO คือ:การปรับปรุงเว็บไซต์เพื่อให้เข้ากับการค้นหาของ Google หรือที่เรียกว่า Search Engine Optimization (SEO) เป็นกระบวนการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อให้หน้าเว็บไซต์ของเราปรากฏอยู่บนหน้าแรกของผลการค้นหาของ Google
โดยการทำ SEO สามารถทำได้หลายวิธี เช่นการสร้างเนื้อหาที่ตอบโจทย์และเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้งาน รวมถึงการปรับปรุงโครงสร้างเว็บไซต์เพื่อให้ง่ายต่อการจัดอันดับของ Google โดยเป้าหมายหลักของการทำ SEO คือเพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าและเพิ่มยอดขายของธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อดี:
Increase Organic Traffic: เพิ่มยอดการเข้าถึงเว็บไซต์แบบ Organic (ไม่เสียค่าใช้จ่าย)
Credibility and Trust: เมื่อเว็บติดผลการค้นแรกๆ มักถูกมองว่าเป็นเว็บไซต์มีความน่าเชื่อถือและเชื่อมั่นขึ้นโดยผู้ใช้งาน
Cost Effective: เมื่อเทียบกับโฆษณาที่ต้องเสียเงิน SEO ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าในระยะยาว
Analytics and Insights: เครื่องมือ SEO ให้ข้อมูลที่มีค่าและข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้ใช้ ประสิทธิภาพของคำสำคัญ และประสิทธิผลของเว็บไซต์ เพื่อช่วยปรับปรุงกลยุทธ์ของคุณ
ข้อเสีย:Time Consuming: การทำ SEO นั้นใช้เวลานาน โดยมักจะใช้เวลาเป็นเดือนขึ้นไปก่อนจะเห็นผลที่ชัดเจน
Uncertain Result: อัลกอริทึมของเครื่องมือค้นหาอาจเปลี่ยนแปลงได้ระหว่างทำ SEO และการแข่งขันของ SEO นั้นค่อนข้างดุเดือด
Algorithm Changes: เครื่องมือค้นหาอย่าง Google มักจะมีการอัปเดตอยู่ตลอดเวลา ซึ่งสามารถส่งผลต่อการทำ SEO ได้
Competition: อย่างที่กล่าวไป การทำ SEO นั้นมีการแข่งขันที่สูงเและดุเดือด
SEM คือ:SEM หมายถึง Search Engine Marketing ซึ่งเป็นการโฆษณาผ่านเครื่องมือค้นหา เพื่อเพิ่มโอกาสในการปรากฏหน้าเว็บไซต์ในผลการค้นหาของ Google โดยการใช้เงินเพื่อประมูล Keyword ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ เพื่อให้เว็บไซต์ของคุณปรากฏอยู่บนหน้าค้นหาของ Google
ในทางปฏิบัติ SEM จะเริ่มต้นด้วยการเลือก Keyword ที่เหมาะสมกับธุรกิจ และประมูลราคาต่อคลิก (PPC) ของ Keyword นั้น ๆ ผ่าน Google Ad โดยราคาของแต่ละ Keyword จะแตกต่างกันไป หลังจากประมูลสำเร็จ เว็บไซต์ก็จะปรากฏบนหน้าค้นหาของ Google และเมื่อมีการคลิกเข้าไปยังเว็บไซต์ของคุณ คุณจะถูกหักเงินตามราคาที่ประมูลไว้ล่วงหน้า ดังนั้น SEM เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการโฆษณาออนไลน์และเพิ่มโอกาสในการทำธุรกิจ
ข้อดี:Immediate Visibility: แคมเปญของ SEM ให้ผลลัพธ์ที่แทบจะเห็นผลในทันที เมื่อโฆษณาคุณได้รับการอนุมัติ
Measurable Results: SEM ให้การวิเคราะห์และการวัดผลที่ละเอียดอ่อน ช่วยให้สามารถติดตามและวัดประสิทธิภาพของแคมเปญได้
Flexibility: แคมเปญ SEM สามารถปรับและปรับปรุงได้ง่ายและเรียลไทม์ คุณสามารถปรับแคมเปญ เปลี่ยนข้อความโฆษณา ปรับกลยุทธ์การเสนอราคา และเป้าหมายกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกันตามความต้องการได้ตลอดเวลาที่ต้องการ
ข้อเสีย:Cost: การทำ SEM มีค่าใช้จ่ายที่สูง โดยเฉพาะคำที่มีการแข่งขันสูง (คนประมูลเยอะ)
Ongoing Expenses: ในขณะที่ SEO สามารถให้ผลลัพธ์ในระยะยาวโดยไม่ต้องใช้งบประมาณต่อเนื่อง SEM ต้องการการลงทุนต่อเนื่องเพื่อรักษาการมองเห็นในการค้นหา หากคุณหยุดการโฆษณา การมองเห็นของคุณในผลการค้นหาก็จะลดลงด้วย
Competition: การทำ SEM เองก็มีการแข่งขันที่สูง โดยเฉพาะคำสำคัญที่เป็นที่ต้องการ ซึ่งการแข่งขันของ SEM ส่งผลให้การประมูลเพื่อ keyword นั้นๆมีราคาที่สูงขึ้น ซึ่งอาจทำให้บริษัทขนาดเล็กยากที่จะแข่งกับบริษัทใหญ่
SEO ปะทะ SEM:เมื่อเข้าใจภาพรวมของ SEO และ SEM แล้วทีนี้ก็ต้องมาดูว่าเป้าหมายของคุณคืออะไร และรูปแบบการทำงานแบบไหน ที่เหมาะกับเป้าหมายของคุณกว่ากัน? โดยดูได้ตามนี้:
งบประมาณของคุณการทำ SEM จะใช้เวลาประสบความสำเร็จที่สั้นและง่ายกว่า SEO แต่กลับกัน SEM ก็เปลืองงบกว่า ดังนั้น ถ้างบคุณไม่น้อย ก็ควรเลือกทำ SEO เพื่อหวังผลระยะยาวแทน SEM
ความต้องการของคุณSEO และ SEM จะทำเพื่อเพิ่มยอดคนเข้าเว็บไซต์เหมือนกัน แต่เหมาะทำในบริบทที่แตกต่างกัน ถ้าต้องการเพิ่มยอดขายแบบเร่งด่วน หรืออยากนำเสนอโปรโมชั่นผ่านเว็บไซต์ SEM คือคำตอบของคุณ
ตรงกันข้าม ถ้าคุณต้องการยอดขายในระยะยาว คุณก็ควรทำ SEO เพราะการทำ SEM ในระยะยาวมีค่าใช้จ่ายที่สูง และอาจเป็นกลยุทธ์ที่เหมาะกับบางบริษัทเท่านั้น
ความพร้อมของคุณโดยพื้นฐานแล้ว การทำ SEO ทำได้หลายวิธี ทุกคนสามารถทำเองได้ แต่คนทำ SEO คงไม่ได้มีแค่คุณคนเดียว หรือก็คือคนที่แข่งกันขึ้นหน้าแรกของ Google นั้นมีจำนวนมหาศาล เพื่อให้การทำ SEO ให้ประสบความสำเร็จ ผู้ทำ SEO จึงต้องมีความรู้ด้าน SEO พอสมควร และต้องมีเวลาดูแลระบบ SEO ด้วย
แต่ในส่วนของ SEM นั้นทำง่ายกว่า ต้องการความเชี่ยวชาญและใช้เวลาลงมือทำน้อยกว่า ดังนั้น จึงเหมาะกับคนที่ไม่อยากเสียเวลาเรียนรู้อะไรใหม่ ๆ เยอะ มีเวลาลงมือดูแลระบบน้อย รวมถึงมีงบประมาณมากพอ
ยอดขายที่คาดว่าจะได้กลับมาหากยอดขายที่จะได้กลับมาคุ้มค่ากับการทำ SEM หรือราคาต่อคลิก คุณก็ควรเลือกทำ SEM แต่ถ้าคุณไม่แน่ใจว่าจะได้ยอดขายเยอะ หรือราคาสินค้าที่ขายถูกมากเมื่อเปรียบเทียบกับราคาต่อคลิก การทำ SEO ก็เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า
SEM กับ SEO เป็นวิธีเพิ่มยอดเข้าถึงเว็บไซต์ รวมถึงยอดขายจากเว็บ ที่หลาย ๆ บริษัทนิยมใช้กัน
และสำหรับคนที่สนใจทำ SEO และ SEM แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นยังไง หรืออ่านข้อมูลจากเน็ตแล้วไม่เข้าใจ THE TEPCO ยินดีให้คำแนะนำ โดยเราเป็นเอเจนซี่การตลาดออนไลน์ ซึ่งมีประสบการณ์ในวงการมากกว่า 10 ปี ที่ให้บริการ
รับทำ SEO และ ทำ SEM ก็เป็นสิ่งที่เรามีประสบการณ์และเชี่ยวชาญทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ และนอกจากรับให้คำปรึกษาแล้ว เรายังรับวางแผนกลยุทธ์ให้กับบริษัทมากมายเพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางธุรกิจด้วย
ความรู้ทั่วไป
