ต้องคิดทบทวนย้อนหลังไป 5 ปี ว่ารายได้เท่าไร พอเลี้ยงตัวเองไหม และวางแผนว่าถ้าออกจากงานแน่นอน มีเงินเก็บไว้สำรองเท่าไร สามารถอยู่ได้กี่ปีถ้าไม่มีรายได้เลย หรือรายได้น้อยกว่าเงินเดือนที่เคยรับก่อนนะคะ และก่อนลาออกต้องหาอาชีพลงมือทำก่อนค่ะ ถ้ารายได้เข้ามาแล้วพอคำนวณได้ว่าอยู่ได้ไม่เดือดร้อน ครอบครัวมีเงินพอใช้จ่าย ค่อยลาออกนะคะ
ยกตัวอย่างก่อนละกัน ออกจากงานประจำเมื่อปี 2555 ตอนนั้นเงินเดือนรับราชการก็ไม่เท่าไรไม่พอเลี้ยงตัวเองด้วยซ้ำต้องอาศัยครอบครัวเลี้ยง แต่คนเลี้ยงมีรายได้และทำงานที่มีรายได้สูงกว่าผู้เขียน ก่อนลาออก 1 ปี ได้วางแผนทำธุรกิจไว้ก่อนล่วงหน้า เดือนแรกคือ ส.ค. 2554 รายได้เดือนแรกของการทำธุรกิจสูงกว่าเงินเดือนรับราชการ ดูเดือนถัดมากอีก ก็สูงขึ้นอีก รอจนถึงสิ้นเดือน มีนาคม 2555 รายได้สูงมาตลอดและพอมีเงินเก็บเท่ากับรายได้ที่ได้ทั้งปีของเงินเดือนรับราชการ ซึ่งเทียบกัน รายได้จากการทำงานใหม่ 8 เดือน เท่ากับเงินเดือนรับราชการ 2 ปี ตัดสินใจลาออกได้
นี่หละคือต้องวางแผนชีวิตก่อนลาออก ขอฝากไว้เตือนใจการทำงานอิสระบางครั้งอย่าหวังว่ารายได้จะเท่าเดิมหรือสูงกว่าเดิมไปเรื่อยๆ ขาลงก็มี แต่ถึงเวลานั้นเราใช้เงินแบบพอเพียงก็มีเงินเก็บสำรองไว้แล้ว ถ้ารายได้จะต่ำกว่าที่คาดหวัง ก็ไม่เดือดร้อน นำเงินเก็บมาซื้อกองทุน ซื้อประกันแบบออมเงิน (2/5 ของออมสิน 3.5% ต่อปี) ได้เงินปันผลปีหนึ่งถ้าไม่ทำงานก็อยู่ได้จากเงินปันผลนี่หละ แต่ขออนุญาตไม่บอกตัวเงินที่นำไปซื้อกองทุนกับประกันชีวิตแบบออมนะคะ รายจ่ายเดือนละ 50K up (ค่าซ่อมบำรุงรถ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าใช้จ่ายของใช้ในบ้าน ไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวในไทย ค่ารักษาพยาบาล)
อ้อลืมบอก ประกันสังคมแบบทำเองหลังจากออกจากงานมีชดเชยเกษียณ รักษาพยาบาล มีไว้ก็ดีค่ะ เข้าโรงพยาบาลใช้สิทธิ์ประกันสังคมแล้วจ่ายเงินเพิ่มส่วนเกินโรงพยาบาลก็ดูแลเราเป็นอย่างดีค่ะ