สำนวนอาจไม่เหมือนกันนะ แรกๆสุภาพหน่อยเป็นเรื่องที่เขียนไว้เดือน 8
หลังๆอาจเลอะเทอะบ้างเป็นเรื่องที่เขียนสดวันนี้ 30-10-2014
***บทความนี้ช่วงต้นเขียนในวันที่ 11-08-2014***มุมมองตลาดขายของออนไลน์ของไทยถ้าในความคิดผมมันไปได้อีกไกล เนื่องจาก ประเภทสินค้าที่เข้ามาออนไลน์นั้นยังสามารถหาช่องว่างในการเข้ามาแบ่งเค้กก้อนนี้ได้อีกมาก ทั้งยังมี "มืออาชีพ" ที่กระโดดเข้ามาทำน้อย นัยว่าผู้ขายออนไลน์ส่วนใหญ่ 90% เป็นเจ้าของธุรกิจส่วนตัวกันและมักไม่วางระบบดีๆออกแนว ข้ามาคนเดียวซะมากกว่า อาจจะเป็นเพราะคนที่อยู่ในตลาดก็ไม่อยากให้คนหน้าใหม่โดดเข้ามา (แหงละ) ไม่เหมือนตลาด aff ที่สามารถชักชวนคนที่สนใจเข้ามาร่วมลุยด้วยกันได้เพราะมีผลประโยชน์ร่วมกันอยู่
สำหรับส่วนตัวแล้วเริ่มขายของออนไลน์มาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2554 ณ ปัจจุบันนี้ก็ 3 ปีผ่านไปแล้ว มีความรู้ ประสบการณ์ ความอึด ความขยันอยู่ประมาณหนึ่ง เดี๋ยวจะนำกรณีศึกษาเป็น เสตปแบบจับมือทำมาให้มือใหม่ศึกษา บางขั้นตอนมือใหม่อาจใช้ระยะเวลาในการทำนานหน่อย อยากบอกว่าตอนผมงมกับเรื่องทำเว็บขายของนี่ลบทิ้งเป็นสิบรอบครับ ใช้เวลาเป็นเดือน ถ้าตั้งใจศึกษาและตั้งใจทำเป็นมืออาชีพ ... ตลาดนี้เปิดโอกาสให้ท่านเสมอ
จากย่อหน้าบนบอกไว้ก่อนให้เป็นกำลังใจมือใหม่ ผมเป็นพนักงานออฟฟิศเซลล์ธรรมดาๆนี่แหละครับใช้เป็นแค่ word , power point เล่น dota ใช้ internet จีบหญิงไปวันๆก่อนหน้าที่จะมาลุยขายของออนไลน์ จะได้รู้ครับว่าไม่ได้เป็นสาย IT โปรแกรมเมอร์หรืออะไรเทือกๆนั้น
นี่เคสล่าสุด (1-8-2014) เริ่มจากผมมองหาช่องทางการกระจายความเสี่ยงให้กับเว็บไซต์ที่มีอยู่แล้วในเครือเพราะเห็นปัจจัยที่คุมไม่ได้เริ่มเยอะขึ้น (เปลี่ยนรัฐบาล วิธีการบางอย่างเปลี่ยน) ร้านขายของออนไลน์ความสวยความงามของผมเริ่มมีปัญหาในการนำเข้าสินค้า ยอดหายไปเดือนละเกือบ ห้าแสนได้ และร้านสินค้าแฟชั่นอีก 1 ร้านก็เช่นกัน 2 ร้านนี้ยอดขายประมาณ 1.2 ล้านบาทที่หายไปในช่วงระยะเวลา 40 วัน ส่วนร้านค้าสุขภาพที่เป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าในไทยนั้นไม่ได้รับผลกระทบนัก (ใช่ครับ ผมมีร้านเยอะ)
ทุกครั้งที่อยากจะเริ่มสร้างธุรกิจตัวใหม่ขึ้นมา ผมจะคิดว่า ให้มองดูต้นทุนของเรา เราใช้อะไรอยู่แล้วและสามารถต่อยอดส่วนนั้นๆเพิ่มมูลค่าได้อย่างไรบ้าง
ณ. จุดนั้นผมก็พบต้นทุนที่ผมสามารถใช้ในการต่อยอดได้คือ
1.ผมส่งของอยู่แล้ว
2.การตอบลูกค้า ผมมีทีมงานในการตอบ และ/หรือ ตอบเองได้ (ผมชอบ service คน แต่ผมทำได้ไม่นานขี้เบื่อ)
3.ผมมีวิธีที่จะทำการตลาดอยู่แล้ว และติดตามข่าวสารใหม่ๆอัพเดทอยู่เสมอ
4.ผมเพิ่งย้ายบ้านมาต่างจังหวัด โล่ง สบาย ใช้เวลาเดินทางกำหนดได้
5.พื้นที่ stock สินค้าผมมี และยังว่างอยู่เยอะ
หาจุดต่อยอดได้ดังนี้ ผมก็หาสินค้าเพิ่มเติมเพื่อขึ้นร้านใหม่ทันที สิ่งที่มองหานั้นจะเริ่มจากของอุปโภคบริโภคก่อนเป็นอันดับแรก ผมชอบของซื้อซ้ำหมดไป ไม่นิยมทำกำไรรอบเดียวแล้วหายยาว ... ของกินของใช้แล้วหมดไปนี่แหละครับตัวดี ถ้าขายผ้าอนามัย ขายมาม่า สบู่ ยาสีฟัน ได้นี่ขายไปแล้วครับ
ก็ทำการเดินตลาดในยามว่าง ออกไปเที่ยวแถวบ้าน ที่ธรรมชาติบ้าง ทำให้หัวมันโล่งๆแล้วจะคิดอะไรได้ดี
ตรงจุดนี้คนเราไม่เหมือนกันนะ บางคนนั่งคิดแป๊บเดียวได้ บางคนหาแทบตายก็ไม่เจอ ส่วนตัวผมนี่จะหาเจอตอนที่เล่นเกมส์ อ่านไม่ผิดหรอกครับ ตอนที่เล่นเกมส์มันจะมีช่องวางระหว่างใช้ความคิดในการเล่นเกมส์ ตรงจุดว่างจุดนั้น ทำเงินให้ผมมาเยอะแล้วครับทุกตลาด
(บอกเลยเดี๋ยวนี้แก่แล้วเล่น Civilization แต่ก่อนความคิดจะมาช่วงโดน kill dota 555)
ระหว่างนี้ก็ดูคนอื่นไปด้วยครับ page ใน facebook ... เว็บไซต์ต่างๆก็ส่องๆดูว่าเขาทำตลาดกันอย่างไร และสินค้าอะไรกำลังมา ดูจุดอ่อน เลียนแบบจุดแข็ง ปรับจุดเด่นมาเป็นของเรา พัฒนาร้านค้าให้ลูกค้าใช้งานง่ายและได้ประโยชน์สูงสุด
ในที่สุดก็ไปสะดุดตาสินค้าอยู่ประเภทหนึ่ง เป็นของใช้ในบ้าน ก็เลยไปขอซื้อสินค้ามาทดลอง มาใช้ได้ 2-3 วันก็พบว่าสินค้าราคาไม่แพง สมคุณภาพ เท่าที่มันควรจะเป็นในความรู้สึกผม คุณภาพสินค้าดี แต่ไม่ใช่ของใช้แล้วหมดไป ก็หยวนๆน่ะ ชอบสินค้านี้ซะแล้ว
ความรู้สึกตรงนี้สำคัญนะครับ ระหว่าง 3 ปีที่ผ่านมานอกจากร้านค้าทำเงินหลักแล้ว ผมหาของใหม่ขายตลอด ทั้งสั่งของจากต่างประเทศมา ทั้งของในไทย ของทำมือ แฮนด์เมดขายตลาดนอก พบว่าถ้าสินค้าตัวไหน ประเภทไหนที่เราคลิกกับมันแล้วว่า "เฮ้ย มันใช่ว่ะ!" ถ้ามีความรู้สึกนี้เกิดขึ้นแล้ว ผมจะทำได้ดี และเป็นตัวทำเงินเกรด A ในโกดังร้านค้าของผมเลยทีเดียว
***
ผมแบ่งเกรดร้านค้าของผมเป็น 3 เกรด
เกรด A คือ เราทำตลาดได้ดี มีคู่แข่งบ้าง ลูกค้าใช้แล้วชอบ ทำเงินให้เราได้ตลอด การดูแลน้อย - ถือเป็นรายได้หลักหล่อเลี้ยงส่วนอื่นๆ
เกรด B คือ ทำตลาดพอได้ คู่แข่งสูง ใช้เวลาในการดูแลมากแม้รายได้สูงก็ความยุ่งยากสูง - อันนี้ทำแล้วเหนื่อยแต่ก็ต้องมีไว้
เกรด C คือ สินค้าตามกระแส รีบทำเงินแล้วก็เปลี่ยนตัวใหม่ - นิยมใช้พวกร้านค้าออนไลน์ทำ ไม่ก็ wordpress squeezepage หน้าเดียวจบ
***
จากนั้นก็เริ่มวางแผนในการทำเงินกับสินค้าตัวนี้
ขั้นตอนแรกสุด ยากที่สุดก็ว่าได้นับจากหาสินค้าได้แล้วคือ "คิดชื่อร้าน"
ชื่อร้านสำคัญมากสำหรับผม ผมชอบ 2-4 พยางค์ ก็พอ เกินกว่านี้ผมว่ามันเกินไปหน่อย ถ้าขายเครื่องสำอางก็ประเภท เลิฟลี่คิวตี้เดลีเชียสดอทคอม อะไรพวกนี้ผมไม่ค่อยชอบ เพราะคิดว่าลูกค้าชาวบ้านๆ สาวโรงงานมันจะลำบากในการสะกด (เชื่อเถอะ จบ ป.ตรี มาบางคนยังสะกดไม่เป็นเลยบางเว็บ จะยากไปไหน)
step ถัดมาในการทำ ขอไล่เป็น timeline ดังนี้
ช่วงเริ่มหาของ (7 วัน)
- ตั้งใจหาของใหม่
- ทดลองใช้สินค้า
- ทดลองสินค้าแล้ว ok ราคา ok
หลังจากนั้น
วันที่ 1
- ติดต่อแหล่งผลิต - โรงงาน หาเจ้าใหญ่ที่ให้ราคาดี คุณภาพดีได้
- สั่งสินค้า stock ขนกลับบ้าน - สินค้า 1x ชิ้น (3xxx฿)
- จัดการถ่ายรูปสินค้า ลงขายใน Line โดยที่ใช้ประโยชน์จากร้านค้าที่มีอยู่ (แนะนำลูกค้าว่านี่ร้านเครือเดียวกันและขายสินค้าอีกประเภทหนึ่ง)
- ขายได้ทันที 4 ชิ้น ได้เงินคืนมา 2xxx บาท ผมเริ่มมั่นใจว่าเวิร์คแน่ๆ
- จดโดเมน ชี้โดเมนลงโฮส (400฿+2000฿)
- ให้ทีมงานนั่งลิสท์คีย์เวิร์ดที่จะเล่น
วันที่ 2
- ซื้อ FonePad7 (4200฿) ทำช่องทางการติดต่อให้ลูกค้าใหม่ Line,เบอร์,E-mail ผมไม่นิยมใช้ปนกันทั้งเบอร์โทรและไลน์ มันสับสน
วันที่ 3
- ลง CMS ส่วนตัวผมใช้ opencart เพราะถนัดมาตั้งแต่แรก - กรณีนี้ตั้งใจปั้นเป็นเว็บทำเงินเกรด A ดังนั้นผมชอบอะไรที่โมเองได้
สำหรับมือใหม่ถ้าให้ง่ายก็ไป lnwshop เลยครับสะดวก
- ลงเสร็จทิ้งไว้
- หันไปทำ facebook fanpage สร้างเพจ ใส่รายละเอียด link กลับมาเว็บหลัก นั่งทำ cover photo + profile
อันนี้นานหน่อยเพราะมันเปลี่ยนรูปแบบเพจใหม่ ต้องไล่ไซส์ coverใหม่ 2-3 ชั่วโมงได้ (งานดีไซน์ผมกากมาก)
- ไปทำ google+ page ต่อ แล้ว link กลับมาที่โดเมนหลัก ทำ cover + profile ยืนยันเว็บไซต์
- ทำโครงสร้างเว็บไซต์ ตามคีย์เวิร์ดที่ลิสท์ไว้จากวันที่ 1

วันที่ 3
- เพิ่ม stock สินค้า ลงทุนไปอีก 6,000฿
- โม opencart ปรับ onpage ลงรายละเอียด ช่องทางการติดต่อ
- เริ่ม ads page 500/วัน (จ่ายเต็ม no coupon)
จากนั้นมาก็ไม่ได้ลงเงินอีกเลย ...
***เนื้อหาต่อจากนี้ เขียนในวันที่ 30-10-2014*** หลังวันที่ 3 ผมไม่ได้เขียนล่ะ ... ลูกค้าเยอะไม่ว่างเขียน
พอดีเมื่อวานพาวเวอร์ซัพพลายระเบิด ตอนนี้เลยว่างมานั่งเขียนต่อ กำลังเคว้งๆเปิดไฟล์ txt เจอที่เขียนค้างไว้เลยตัดสินใจลงเลยละกัน
เรื่องราวต่อจากวันที่ 3 นั้นเป็นช่วงที่มันส์มาก กลายเป็นสินค้าติดตลาดอย่างเร็วและมีลูกค้าเป็นจำนวนมาก
ไล่เป็น step ดังนี้
เดือนที่ 1 เดือนแห่งการเริ่มต้น
- สำรวจตลาดทุกวัน เน้นทุกวัน สิ่งที่ได้กลับมาเยอะมาก
* น้ำหนักลงไป 4 โล หุ่นดีขึ้น สุขภาพดีขึ้น
* ประเมินของเก่งขึ้น ดูแว้บเดียวรู้ต้นทุน กำไร วิธีทำการตลาด หลังจากที่อยู่ กทม นั่งอุดอู้อยู่แต่ในบ้านจัดสรรชนชั้นกลางแล้วมโนเอา
* ทักษะตลาดนัด เรื่องนี้เยอะ อธิบายยาว ข้ามไปก่อนยังเรียบเรียงความคิดไม่ได้ ฟีลแชร์ริ่้งยังไม่มา
* พบเจอคนใหม่ๆ ... แถวที่ผมย้ายมาอยู่นี่เจ๋งดี กางเกงขาสั้น ลากแตะ ใส่เสื้อลายสก๊อตตัดอ้อย ขอโทษ ถอนเงินฝากเงินซื้อกองทุนกันที 7-8 หลัก ถถถถถ+
- กำไรทุกบาทจากร้านนี้หมุนกลับไปที่สินค้าไม่ใช้อย่างอื่นเลย
- lzd ติดต่อมาตั้งแต่ week แรกที่เริ่มทำ
- ผ่านเดือนแรกไปจ้างลูกจ้าง 2 คน สำหรับร้านนี้... จัด stock 1 ดูแลบ้าน 1
- พ้นเดือนแรกกำไรมาลงทุนระบบบริหารจัดการ stock ชั้นวางของ ปรับพื้นที่ 50k
- ช่วงระหว่างนั้นให้น้องทีมงานลงสินค้าปรับเว็บบ้างประปราย ...
- กรองปัญหาที่เจอในการทำ list และทำขั้นตอนการแก้ไขปัญหาไว้
เดือนที่ 2 เดือนแห่งการบริหารจัดการต้นทุน - จัดการ stock
- เริ่มเห็น limit ในความสามารถในการรับลูกค้าของคน 1 คน
* Q:order เยอะขึ้น ข้อผิดพลาดเยอะขึ้น ส่งผิด order ตกหล่น ทำไงดี
A:เทรนคนเพิ่มรับลูกค้าสิพี่ = จ้างทีมงานเพิ่ม 1 คน
- ต้นทุนลดลงจากการเจรจาต่อรอง (เครดิต + % เพิ่้มขึ้น)
- เงินหมุนวันละ 60k
- คู่ค้าใจถึงมากขึ้น สามทุ่ม เที่ยงคืน จัดให้ได้หมดเพราะเราขายได้เยอะคู่ค้าก็ได้เยอะ win-win เจอแบบนี้ต้องรักษาน้ำใจกันนานๆครับ
บอกตรงๆตั้งแต่ทำมาผมก็พึ่งเจอนี่แหละคนที่ความ "ไว" เหนือกว่าผม ปกติเจอแต่พวกเอื่อยๆ สั่งของทีเป็นชาติ ไม่กระตือรือร้นในการ service เท่าไหร่
- ตัวแทนเริ่มเยอะ วางระบบจัดการตัวแทน คิดระบบที่อยากได้ หาคนทำ
สรุปได้คนในนี้แหละ ฝีมือดีไว้ใจได้ ซื้อขายกันมา 2-3 ปีละ
ไม่อธิบายมาก อ่านตามรูปแคปจากหน้าวอล จะพิมพ์ใหม่มันไม่ได้ฟีลละ ความรู้สึกไม่ให้

- พื้นที่จัดเก็บสินค้าไม่พอ
* เรียกช่างมาเลย ประเมินราคา เคลียร์ที่ดิน จัดโกดังให้หน่อย สรุปได้โรงเรือนที่ 254 ตารางเมตร

* เอากำไรเริ่มถมดิน วางโครงสร้าง เริ่มต้นช่วงปลายเดือนมั้งถ้าจำไม่ผิด

เดือนที่ 3 เดือนแห่งการแตกไลน์ ต่อยอด
จริงๆเห็นมาตั้งแต่เดือนแรกแล้วว่าจะต่อยอดไปด้านไหนได้บ้าง แต่ทำไม่ทันก็เลยยั้งๆไว้ก่อน เดี๋ยวหน้าที่หลักไม่ดี
- เริ่มหาของใหม่ step เดิม คราวนี้ย้ายที่เดินไปเที่ยวที่อื่นบ้าง
ได้มา 2
1 ลองใช้แล้วไม่ดี ตัดทิ้งไป
2 ลองใช้แล้ว ok แต่ผลตอบรับไม่มี ตัดทิ้งไป
อย่าเสียเวลาปั้นครับ ถ้ามันเกิดนะ มันเกิดแล้ว เดี๋ยวนี้ฉลาดขึ้นไม่ปั้นอะไรที่ผลตอบรับไม่ดีละ
- การบริหารจัดการเริ่มอยู่ตัว ทุกคนรู้หน้าที่ คนรับออเดอร์ คนจัดของ คนจัดการ stock คนดูแลบ้าน ช่วงนี้ชิล
ไอ้ตรงนี้แหละอันตราย ส่วนใหญ่จะชอบคิดกันว่าเฮ้ยออเดอร์เยอะแล้ว รวยแน่กู
แล้วก็เอายอดขายต่อวันไปคูณ 30 ให้เป็นรายเดือน แล้วคิดกำไรเสร็จก็ตีว่าตัวเองเงินได้เท่านั้นเท่านี่ต่อเดือนๆไปโม้ชาวบ้าน
บอกเลย ยอดขึ้นได้ก็ตกได้ มันเป็นธรรมชาติของการทำธุรกิจ วงจรธุรกิจน่ะ (มันมีบางตลาดยกเว้นนะ แต่ผมจะบอกทำไม ถูกป่ะ :3)
- เงินหมุน 100k/วันตั้งแต่กลางเดือน (ใครเอาไปคูณ 30 แล้วคิดเงินได้เสร็จมโนต่อก็ลองย้อนไปอ่านข้อตะกี้ดูเตือนใจตัวเอง)
- ไลน์ใหม่ได้มาจากพี่ ปณ. แนะนำ พอดีผมถามๆสินค้าตัวหนึ่งอยู่ตอนเช้าที่ ปณ.มารับของ (เขตผมเทพ ปณ. มารับถึงบ้าน ไม่เสียเวลา ไม่เสียเงินเดินทาง)
ปณ.ตอบมาว่าที่นั่นที่นี่สิ (ห่างจากที่อยู่ไป 70 โล) ปณ. ขนของไปเสร็จจ่ายตัง กระโดดขึ้นรถอีกชั่วโมงนึงได้สินค้ากลับมา + ติดต่อโรงงานพร้อม
ลงไป 4 พันกว่า 1 วันของหมดขายร้านเดียวกันนี่แหละ วันที่ 2 สั่งมาเพิ่มจากร้านเดิม 6 พันกว่า จากนั้นดีลตรงโรงงานสั่งของมาแสนละ 1 อาทิตย์ผ่านไป
อย่าไปช้าไปลังเลครับ ทำไรได้ทำไปเถอะ เห็นบางคนลีลาอยู่นั่นอ่ะ เสียเวลาชีวิตนะ รีบๆทำให้สำเร็จให้ทะลุ ครอบครัวและคนรอบข้างสบาย
- จับสินค้าตัวตะกี้ขึ้นร้านใหม่ ทำเพจ ทำเว็บเรียบร้อย
**********
30-10-2014-โกดังใกล้เสร็จแล้ว
* อันนี้จุดก้าวกระโดดของจริง ถ้าเสร็จแล้วนะ ศักยภาพการทำตลาดของผมเพิ่มขึ้น 10 เท่าได้นี่บอกเลย
ณ ตอนนี้เว็บยังไม่เสร็จ(ฮา)แต่ rank มาแล้ว ทีมงานทำให้


ยอดมาจากตัวแทน 30% เพจ 30% และขายส่ง 40% เว็บนี่มาแน่ๆถ้าเสร็จนะยอดเบิ้ลชัวร์ๆถ้าเว็บเสร็จ
แต่ยังคิดมุกไม่ออกเลยยังไม่อัพเดทอะไร ตอนนี้ว่างก็มานั่งส่งการบ้านซะงั้น ระบบตัวแทนก็ยังเทสท์อยู่
-ไลน์ใหม่ขึ้นอีก 1
* ปัดฝุ่นของเก่ามาทำ ร้านนี้ตั้งใจจะขึ้นพร้อมร้านที่เล่าให้ฟังด้านบน แต่ร้านนั้นพีคซะก่อนเลยไม่ทันขึ้น
จัดมือถือใหม่ ช่องทางการติดต่อใหม่มาละเมื่อวาน กำลังรอสั่งสินค้ารอบใหม่อยู่

สิ่งที่จะทำต่อ
*ทำเว็บต่อ + adword + bumq + nipa + banner
*นำร้านนี้เข้าระบบ เดือน 1-2015
*จะกลับไปลุยเรื่อง seo ทิ้งมา 5-6 เดือนได้ ระหว่างนั้นก็อัพเดทโน่นนี่นั่นสารพัดสัตว์ เปิดไทยเสียวแต่ละทีสนุกสนานจริงๆ ถถถ+
*เทรนคนไปเรื่อยๆ เซ็ทระบบวางตัวผู้จัดการ+พนักงานแต่ละตำแหน่ง เน้นโบนัสและความเป็นเจ้าของในบริษัท
*ศูนย์กระจายสินค้า - บริหารจัดการ stock ให้เทพๆและปล่อยให้ตัวแทนจำหน่ายเป็นช่องทางหลักในการปล่อยสินค้าสร้างงาน สร้างรายได้ให้คนอื่น win-win
*ดึงสินค้าเกษตรเข้ามาสู่ระบบ E-com ให้เกษตรกรได้ดีลตรงกับลูกค้า เล็งไว้ละ 3-4 อย่าง
เดี๋ยวค่อยๆทำไปเรื่องแบบนี้อธิบายชาวบ้านยาก ต้องลองทำให้เห็นเงินดูเดี๋ยวแห่กันมาเอง จะได้ลืมตาอ้าปากกันได้
เห็นขายข้าวขายสินค้าแต่ละทีน้ำตาจะไหลแทน
*สร้างงานในชุมชน เล็งวิสาหกิจชุมชนไว้อีก 2-3 โปรเจค จริงๆผมแพลนไว้ตอนย้ายมาอยู่บ้านนอกนี่ว่าจะให้เด็กในชุมชนมีส่วนรวมในธุรกิจ เช่นจ้างมารับลูกค้า เขียนบทความส่ง ปรับเว็บไรพวกนี้แต่พอมาทำจริงแล้วไม่ค่อย work มันติดเที่ยวติดทำอย่างอื่นกันเยอะ คนที่พอทำได้พออธิบายลักษณะงานให้ก็ส่ายหน้าหนี 555 กล้วยยเอ้่ย สรุปจ้างคนไม่รู้จักกันเอาเข้าระบบดีๆง่ายกว่า แต่ยังหวังอยู่นะคงต้องค่อยๆปรับ ถ้าเด็กมีงานทำ จบมาก็ไม่ไปไหน อยู่พัฒนาชุมชนให้เติบโตไม่ต้องหนีเข้ากรุงเทพ หนีเข้าเมืองใหญ่ฝากลูกให้พ่อแม่เลี้ยง
**********
ส่งท้ายการบ้านรอบนี้

ช่วงนี้ผมพีครู้สึกทำอะไรก็โล่งโปร่งไปหมดได้ดั่งใจอาจจะเพราะมาอยู่บ้านนอกต่างจังหวัดเข้ากับจริตและนิสัยง่ายๆสบายๆเลยหัวแล่น
แชร์อะไรได้ก็จะแชร์นะ นี่เอาจริงๆนะ ข้อมูลตรงๆหรือจากคนทำจริงแชร์ฟรีๆน่ะ ไม่ค่อยสนใจกันหรอก
ชอบคิดว่ามันมีเทคนิคลับ วิธีลัด โกงชาวบ้าน พวกธุรกิจระดมทุนขายฝันหรือคอร์สสัมนามันถึงโตไง
เออแต่บางเจ้าก็ดีนะ นี่ผมพูดถึงสัมนากับคอร์สทั้งหลายเหมาะสำหรับคนอยากรู้ภาพรวมและเคสกรณีศึกษา ...
แต่เลือกเจ้าดีๆหน่อยนะ เอาโปรๆหน่อยที่ติดตามผลดีๆ
ฝากเรื่องนิดหน่อยที่ผมทำแล้วรู้สึกว่าชีวิตดีขึ้นเยอะช่วงที่ผ่านมา
- ครอบครัวมาก่อนเสมอ
- อย่าดูถูกคนอื่น มองคนให้เท่ากัน
- ทำอะไรทำให้ไว อย่ามีข้ออ้างเยอะ โอกาสมันผ่านมาแล้วก็ผ่านไปอยู่ที่เราจะคว้าไว้ไหม
- อย่าเอาคำว่าไม่ได้เรียนมามาเป็นข้ออ้าง ผมนี่จบ ม.6 กสน.
จีนไม่ได้เลย อังกฤษได้นิดหน่อย ตอนนี้เรียนพม่ากับจีนอยู่ ของมันมาแน่รีบเรียนรู้เข้าไว้
ซัพเกาหลีมาเยี่ยมที่ไทยผมก็พามันเที่ยวทั้งอย่างนั้นแหละ คุยกันรู้เรื่องมั่งไม่ได้มั่งแต่สั่งกันทีเป็นล้าน ถถถ+
- เรียนรู้ที่้จะปฏิเสธ อย่าไปช่วยคนอื่นเยอะถ้าตัวเองยังไม่รอด
- อย่าไปคิดว่าอะไรมันจะเป็นแบบนั้นเสมอๆ เรียนรู้ที่จะไม่ได้ดั่งใจเข้าใจตรงนี้ได้ นิ่งได้ทุกสถานการณ์
- อันนี้ก๊อปเขามา ปัญหาเรื่องเงินมี 2 อย่าง น้อยเกินไปกับมากเกินไป เลือกเอาว่าจะเอาปัญหาแบบไหน
- หากลุ่มดีๆ คบเพื่อนที่เติบโตไปด้วยกัน มีเพื่อนร่วมทางแล้วมันไม่เหงา มันสนุก ประคองกันไปถ้าเราไหว
- เลือกเสพความรู้ แนวคิดหลายๆทาง คืออยากจะบอกไอ้คำคมหรูๆหรือแนวคิดร่ำร่วยแบบไมด์เซ็ทโน่นนี่นั่นมันไม่ค่อยเข้าหัวผมเท่าไหร่
ผมอยู่ในธุรกิจสัมนามาตั้งแต่เด็กน่ะ ทัศนคติสู่ความสำเร็จนี่พ่นได้ตั้งแต่ ป.4 แล้วมั้ง ถถถถ+ ยิ่งพวก 10 ข้อที่ทำให้ธุรกิจเจ๊งหรืออะไรประมาณนี้อ่านแว้บเดียวก็รู้แล้วน่ะว่าจ้างเขียนแถวๆนี้แล้วแชร์กันต่อๆไป ดังนั้นต้องระวังเรื่องที่จะรับเข้าหัว ผมชอบที่จะเรียนรู้จากความคิดคนอื่น อย่างไทยเสียวเนี่ย คนไหนเข้าตาผมกดอ่านยันพี่แกสมัครอ่ะ ได้เรียนรู้ลักษณะความคิดคนว่าเออ มาใหม่ๆมันเป็นแบบหนึ่ง ถึงตอนนี้มันเปลี่ยนไป จะเห็นพัฒนาการชัดเจนแล้วเราตกผลึกต่อยอดความคิดของเขาได้ เรียกได้ว่ารู้นิสัยผ่านตัวหนังสือเลยทีเดียว
อย่างเร็วๆนี้ไม่กี่้อาทิตย์ที่ผ่านมาแค่คำที่ว่า "เงินไม่ใช่เงินมันเป็นแค่สื่อกลาง" จากเพจๆหนึ่งในเฟสบุ๊คทำชีวิตผมเปลี่ยนเลย ขบอยู่นาน
จบละ พิมพ์สด ผิดพลาดประการใดขออภัยครับผม
บางคนสงสัยว่ามาแชร์ทำไม
ผมตอบเลยว่ายิ่งให้ ยิ่งได้ อันนี้ผมเชื่อแบบนี้ แม้แชร์แม้บอกแล้วจะมีคนแทงหลังผม ผมก็แจกกล้วยให้มัน แล้วก็แชร์ต่อไป
ผมเกิดได้จากไทยเสียว ผมก็แชร์ที่ไทยเสียวนี่แหละ
(จริงๆทำ blog แปะ link ดูด traffic ไม่ทันน่ะ ถถถถ+) /DePe