วันนี้ย่านที่ทำงานผม ฝนตกหนักมาก มองออกไปนอกหน้าต่าง รถก็ติดยาวเยียด
ผมขี้เกียจออกไปแย่งพื้นที่บนถนนกับคนอื่น ๆ เลยขอทำตัวดูเหมือนขยันนั่งจิ้มแป้นคอมไปเรื่อย ๆ
ใครผ่านก็คงคิดว่าผมกำลังปั่นงานหวังโบนัสก้อนใหญ่ หรือกำลังสร้างสรรค์โฆษณาใหม่ ๆ แน่นอน
แต่ขอโทษเถอะ วันนี้ผมแอบเล่นเนต แวะเข้าพันทิป ไม่รู้จะอ่านอะไรแก้เซ็งดี เลยขอตัวช่วยเป็นกระทู้แนะนำ
ซึ่งก็ทำให้ผมมาเจอกระทู้นี้เข้าละครับ
กระทู้นี้เป็นกระทู้ที่อ่านแล้วน่าตกใจมาก ๆ ไม่ใช่แค่เรื่องผีที่อ่านแล้วมันน่าตกใจ
แต่ที่ผมตกใจมากกว่านั้นก็คือ ชื่อเจ้าของกระทู้ ที่ชื่อหนามเตยนี่แหละ
ผมนั่งคิด คิดว่า มันจะมีสักกี่คนบนโลกในนี้ ที่พ่อแม่จะสรรหาชื่อแปลก ๆ แบบนี้มาตั้งให้ลูกว่า “หนามเตย”
ชื่อนี้คุ้นหูมาก ๆ เพราะชื่อเหมือนน้องสาวคนหนึ่งที่ผมเคยรู้จักเนื่องจากเคยทำงานในออฟฟิคเดียวกัน
ไม่รู้ว่าบุญพาวาสนาส่งให้ต้องมาพบกันอีกครั้งหรือเปล่า เพราะผมเกิดอยากรู้ว่าใครเน้อ จะมีชื่อแปลก ๆ แบบน้องสาวเรา เลยนั่งอ่านกระทู้ไปเรื่อย ๆ (เห็นมีหลายภาค หลาย Episode เหลือเกิน) เพราะหวังจะเจอกับคำตอบ แวะเข้าเวปโน้นเวปนี้ อย่างเวปด้านบนที่มีคนทำลิ้งค์มา
http://ssde.nida.ac.th/ 
และก็ไฮไฟว์อีก
http://namteoi.hi5.com 
แหละแล้วผมก็พบกับคำตอบ น้องหนามเตยจริง ๆ ซะด้วย หวัดดีครับ สบายดีนะ ไม่ได้พบกันนานเลย มาเจอกันอีกทีกลายเป็นเจ้าแม่กระทู้ผีไปซะแหละน้องเรา ยินดีด้วยจ้า แล้วเดี๋ยวพี่คงจะขอเริ่มยุทธการณ์เผาเจ้าแม่เล่น ๆ ดีกว่า เพราะตอนนี้พี่ว่างมาก เบื่อ ๆ หาไอเดียทำงานไม่ออก ขอแซวน้องให้เกิดอารมณ์ขัน แล้วเดี๋ยวจะหันกลับไปทำงานต่อละ
ผมรู้จักน้องหนามเตยเมื่อประมาณสามปีก่อน เพราะว่าผมเป็นกรรมการอีกคนหนึ่งที่สัมภาษณ์ตอนน้องมาสมัครทำงานในบริษัทโฆษณาที่ผมทำอ
ยู่ จำได้ว่าวันนั้นมีคนมาสัมภาษณ์งานหลายคน แต่เรารับตำแหน่งเดียวซึ่งก็คือตำแหน่งนี้นี่แหละ
ผมและคณะกรรมการสัมภาษณ์คนอื่น ๆ ตัดสินใจรับน้องเข้าทำงานก็เพราะว่าน้องคนนี้มีประวัติที่ดีและน่าสนใจมาก และที่สำคัญถามเธอว่าอยากได้เงินเดือนเท่าไหร่ น้องบอกว่า “เท่าไหร่ก็ได้ค่ะ”
นี่คงเป็นเหตุผลที่กรรมการทุกคนตัดสินใจรับเธอทำงานกันแทบไม่ทัน ฮ่า ๆ ๆ
ข้อความด้านบน ผมล้อเล่นครับ แต่มันก็เป็นเรื่องจริงทั้งหมดนั่นแหละ ฮ่า ๆ ๆ
ประวัติของน้องหนามเตยก็คงเป็นประวัติเหมือนกับลูกคุณหนูทั่ว ๆ ไปที่ผมเคยเจอ ก็คือ จบคอนแวนต์ มีที่บ้านมารับมาส่ง อย่างน้องเตยนี่เวลามาทำงาน ก็จะมีคุณพ่อคุณแม่ผลัดกันมารับมาส่งตลอด เรียกได้ว่าหนุ่มคนไหนคิดจะจีบคงต้องคิดหนักเพราะหาเวลาเข้าไปคุยกับน้องก็ยากแล้ว ยิ่งจะชวนไปไหนมาไหนนี่ไม่ต้องพูดถึง
คือไม่มีทาง
แต่น้องเตยไม่ธรรมดาตรงที่ เธอเรียบร้อยมาก ๆ ๆ ๆ แถมเธอทำงานทุกอย่างเป็นหมด หัวไวมาก สั่งอะไรทำได้หมด และที่สำคัญทำงานด้วยรอยยิ้ม ผมเห็นน้องมาทำงานเป็นคนแรกก่อนใคร แล้วก็ทำงานทุกอย่างทั้งในหน้าที่ และไม่ใช่หน้าที่
ที่บอกว่าไม่ใช่หน้าที่ ก็คือ ผมเห็นเธอถวายน้ำพระที่ออฟฟิคทุกวัน เดี๋ยวก็ซื้อพวงมาลัยมาถวาย เดี๋ยวก็ซื้อดอกไม้มาถวาย แถมเอาขนมมาฝากพี่ ๆ ในออฟฟิคอีก อย่างนี้ใครจะไม่เอ็นดูน้องละครับ บางวันเห็นน้องช่วยเพื่อนถูพื้น กวาดออฟฟิค ยกของ เก็บของ เสริฟน้ำ ชงกาแฟอีก (นี่เป็น GB ชัด ๆ ) แต่น้องชงกาแฟอร่อยมากครับ
แล้วน้องเป็นคนไม่ถือตัว เธอมีเพื่อนสนิทเป็นแม่บ้าน เป็นแมสเซ็นเจอร์อีกด้วย เวลาผมเห็นเธอไปทานข้าวกลางวันที ก็จะไปกับเพื่อนที่ผมบอกด้านบนนี่ละ แล้วก็จะไปกับเจ้าเป้ลูกสาวเจ้าของบริษัทกระทิงแดง
กลุ่มนี้เค้าแปลก ๆ ครับ มีตั้งแต่ระดับไฮโซจนถึงโลโซ แต่ก็เห็นคบกันได้ ไม่มีปัญหา แถมเป็นกลุ่มเด็กในออฟฟิคที่เวลาคุยกันเล่นกันดูคล้ายเด็กมัธยมจริง ๆ แต่เวลาทำงานก็จริงจังจนน่าตกใจ
นอกจากน้องเตยจะเป็นคนที่เรียบร้อยมาก ๆ แล้ว เธอเป็นผู้หญิงคนแรกและคนเดียวในออฟฟิคที่ได้รับช่อดอกไม้ทุกวัน สร้างความมึนงงกับสาว ๆ ในออฟฟิคและพวกผมเป็นอย่างมากว่าใครกันวะมันช่างลงทุนซะจริง ๆ เรียกได้ว่าตั้งแต่มีน้องเข้ามาอยู่ในออฟฟิค หัวบันไดออฟฟิคเราไม่เคยแห้งครับ
ผมเห็นตั้งแต่ลูกค้า ซับพลายเออร์ ออฟฟิคข้าง ๆ เดี๋ยวก็ซื้อน้ำ ซื้อขนมมาให้น้องเป็นประจำ ทำให้พวกผมพลอยอิ่มไปด้วย เพราะน้องเอามาแบ่งพี่ ๆ ทุกคน ผมไม่เห็นน้องกล้าทานของใครเลย สงสัยคงกลัวโดนใส่ยาพิษ แต่พวกผมและเพื่อน ๆ ไม่เคยกลัวครับ แย่งน้องทานกันจนหมดไม่มีเหลือทุกวัน
น้องเป็นคนที่น่ารักและมีเสน่ห์มาก ๆ เสน่ห์ของน้องไม่ได้อยู่แค่หน้าตาหรอกครับ แต่ผมว่าน่าจะอยู่ที่นิสัยมากกว่า เพราะบอกได้คำเดียวว่า ผู้หญิงคนนี้นิสัยดีมากจริง ๆ โอบอ้อมอารี พูดเพราะ ยิ้มง่าย ขยัน ทำงานเก่ง จริงจังและตั้งใจ
ผมเห็นขนาดยาม แม่บ้านในตึก บางวันลงขันกันซื้อข้าวเหนียวหมูปิ้งมาให้น้องทาน บางวันก็ปอกมะม่วงมาให้ ผมเคยหลอกถามยามกับป้าแม่บ้านของตึกว่า ทำไมถึงต้องลงทุนซื้อของมาให้น้องเตยด้วยล่ะ ยามกับป้าแม่บ้านบอกผมว่า “น้องคนนี้นิสัยดีมาก ๆ เวลามีขนม มีอะไรก็จะเอามาเผื่อแผ่พวกเขาเสมอ แล้วก็พูดจาดีมาก ๆ พูดเพราะ มีน้ำใจ ไม่ดูถูกคนจน ๆ อย่างพวกเขาซึ่งถ้าเป็นคนอื่นคงไม่เคยมีใครทำดีกับพวกเขาแบบนี้ พวกเขาก็เลยอยากจะตอบแทนน้องบ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ ผมฟังแล้วถึงกับพลอยตื้นตันไปด้วยเลย (ฝนหยุดตกแล้ว การจราจรคล่องตัว เดี๋ยวผมขอขับรถกลับบ้านก่อนครับ แล้วเดี๋ยวจะมาเล่าประวัติคร่าว ๆ ของน้องเตยให้ฟังกันต่อ เพราะตอนนี้ผมกำลังคันมือ และเชื่อว่าแฟนคลับของน้องคงอยากจะรู้กันบ้าง ถ้าไม่ง่วงไปซะก่อน จะมาเล่าต่อครับ)
กลับถึงบ้านแล้วครับ มาเผาน้องเตยต่อดีกว่า เพราะวันนี้ผมว่างงงงง หาไอเดียคิดงานไม่ออกจริง ๆ ครีเอทีฟก็งี้แหละครับ วันนี้หมดมุข มุขตัน คิดงานไม่ออก ก็จะหาอะไรแก้เซ็งทำ เพราะทำแล้วจะเกิดไอเดียใหม่ ๆ ได้เสมอ
เผาน้องเตยต่อดีกว่า เมื่อกี้เล่าไปถึงไหนแล้วนะ ลืม
ที่ออฟฟิคจะมีงานเลี้ยงพนักงานในออฟฟิค มีการประกวดร้องเพลงด้วย พนักงานทุกคนในออฟฟิคสมัครประกวดร้องเพลงกันหมดเพราะว่าถ้าชนะจะได้รางวัลเป็นเงินสดสา
มพันบาท แต่น้องเตยเธอเป็นคนเดียวที่ไม่ได้สมัคร คงเป็นเพราะว่าเธออายและเพิ่งเข้าทำงานใหม่ ๆ มั้งครับ
แต่สรุปคืนนั้น CEO ของออฟฟิคก็บังคับให้น้องเตยร้องเพลง ทุกคนในออฟฟิคก็ตกใจ เพราะว่ากลัวน้องจะขึ้นไปร้องให้ เพราะเห็นน้องหน้าเสีย แต่พอน้องร้องเพลงออกมาก็ทำเอาทุกคนนั่งอึ้งกันเป็นแถว น้องเตยเป็นคนที่ร้องเพลงเพราะมากครับ ร้องเหมือนเทปเป๊ะ ๆ เลย สรุป รางวัลในคืนนั้นก็กลายเป็นของน้องไป
และตั้งแต่นั้นมาเวลามีงานเกี่ยวกับการใช้เสียง ไม่ว่าจะเป็นงานพากษ์ ลงเสียง ไกค์เสียงให้ดาราหรือคนดัง ก็จะใช้เสียงน้องเตยนี่ละครับ เพราะน้องเค้ามีพรสวรรค์ทางด้านนี้มาก คือ เสียงเค้าสวยมาก (และพี่ก็มารู้วันนี้ว่า น้องมีพรสวรรค์ด้านการเขียน และเมื่อสักพักพี่แวะไปดูที่น้องเป็นพิธีกรให้มหาลัยมาก็ถือว่านี่ก็คงจะเป็นพรสวรรค์อ
ีกอย่างนึงนะ)
อ้อ....น้องเตยจะโชคดี หรือโชคร้ายก็ไม่รู้อยู่อย่างนึง ก็คือ เธอมีหัวหน้าที่ดุมาก ๆ เขี้ยวสุด ๆ ตำแหน่งของเตยเป็นตำแหน่งที่สาว ๆ หลายคนอยากทำ แต่ทำได้ไม่นานก็จะออก เพราะไม่มีใครสามารถทนความดุ ความเขี้ยวของหัวหน้าได้
สรุปแล้วสาว ๆ ที่เข้ามาทำตำแหน่งน้องเตยจะอยู่ได้ไม่เกินสองสัปดาห์ก็จะลาออกไปเอง หรือโดนไล่ออกไปเอง แต่น้องเตยเธอเป็นผู้หญิงคนแรกครับที่มาทำงานในตำแหน่งนี้ แล้วอยู่นานมากที่สุด ผมก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึงทำให้เธออยู่นานมากที่สุด อาจจะเป็นเพราะความอดทนมั้งครับ
จนมาวันช่วงก่อนที่น้องจะลาออกมาเรียนต่อโทนี่ละครับ ผมเคยถามว่า จะเรียนต่อโทด้านไหน น้องตอบว่า อยากเรียนด้านพัฒนาสังคม ผมก็งงว่าจะเรียนไปทำไมฟะ เพราะมันไม่เกี่ยวกับงานที่ทำอยู่เลย ก็เลยถามน้องไปว่าจะเรียนด้านนี้ทำไม ทำไมไม่เรียนนิเทศต่อเพราะว่าน้องมีพรสวรรค์ด้านนี้มาก ๆ และถ้าไปเรียนพัฒนาสังคมแบบนั้นผมก็เห็นว่ามันไม่ตรงสาย
น้องเตยบอกว่า เค้าอยากเป็นสื่อมวลชนที่ดี เป็นสื่อมวลชนที่ช่วยพัฒนาสังคม พัฒนาคุณภาพชีวิตของคนควบคู่ไปกับการให้ความบันเทิงไปด้วย ผมฟังแล้วได้แต่อึ้งเพราะตลอดชีวิตการทำงานในวงการบันเทิงมา บอกตรง ๆ ผมไม่เคยคิดไกลขนาดน้องเตยเลยครับ ผมแค่คิดว่าจะทำยังไงให้ลูกค้าอยู่กับเรานานที่สุด จะทำยังไงให้โฆษณาที่ผมคิดออกไปโดนใจลูกค้าและกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด หรือทำยังไงให้โฆษณาของผมเบียดคู่แข่งเท่านั้น
แต่ผมไม่เคยคิดว่าสื่อมวลชนต้องรับใช้สังคมอะไรขนาดนั้น แต่ในเมื่อน้องเตยคิดดีขนาดนี้ ผมก็อวยพรกับน้องเตยครับ ผมว่าน้องเค้าคิดดี และคิดเป็น และในที่สุดน้องเตยก็ลาออกมาเรียนต่อโทตามความตั้งใจ ก็สร้างความโศกเศร้าเสียใจให้กับหนุ่ม ๆ แถวนั้นเป็นแถว
ตั้งแต่น้องเตยลาออกลูกค้าลดลงครับ เพราะสมัยที่น้องเตยอยู่ลูกค้าจะชอบน้องมาก ๆ ทั้งลูกค้าชายหญิงทำให้งานเข้าเยอะมาก ลูกค้าสาวใหญ่ก็เอ็นดูน้องมากครับผมเห็นชอบซื้อขนมมาฝากน้องเป็นประจำ พอน้องเตยออกผมเห็นเพื่อนของน้องสองสามคนนั่งร้องไห้ตาแดง ๆ ผมยังแซวเลยว่าร้องไห้ดีใจเหรอ เพื่อนบอกเค้าบอกว่า “ใช่” เอ้ย ไม่ใช่ครับ ผมมุข
คือ เพื่อน ๆ ของน้องเค้าเสียใจมากครับที่น้องออกไปเรียนต่อ แต่ก็คงเข้าใจแหละว่าคนเรามันก็ต้องเดินหน้า ต้องมีอนาคต ต้องเดินตามความฝันกันต่อไป ตอนนี้หลาย ๆ คนในออฟฟิคยังรอให้น้องเตยรีบ ๆ เรียนจบแล้วกลับมาทำงานเร็ว ๆ อยู่นะครับ
อ้อเมื่อกี้ผมอ่านความเห็นของคุณพี่เปิ้ลนะคะในความเห็นที่ 359 ผมอยากจะบอกว่า ผมเห็นด้วยกับคุณครับ
เพราะผมก็เชื่อว่าน้องเตยทำได้เหมือนกัน เพราะเท่าที่ผมรู้จักน้องเตยมา ผมก็เห็นว่าน้องมีพรสวรรค์ด้านนี้มากจริง ๆ และผมก็คิดว่าเราควรช่วยกันสนับสนุนน้องนะ เพราะถ้าน้องได้ขึ้นมาจริง ๆ คนอย่างผม หรือคุณ หรือใครหลาย ๆ คนที่ช่วยกันสนับสนุนน้องก็คงจะมีความสุขกันบ้างละครับ เพราะเราถือว่าเราสนับสนุนถูกคนนี่นา
ไปอาบน้ำก่อนนะครับ ส่วนน้องเตยพี่เห็นเขียนว่า พรุ่งนี้จะไปเป็นพิธีกรที่งานพุทธมณฑลเหรอครับ พี่ก็ขอให้น้องทำให้เต็มที่นะครับ ขอให้สนุกกับการทำงาน ยังไงก็ขอให้ได้เป็นพิธีกรมืออาชีพไปเลยนะครับเพราะพี่เชื่อว่าเราเป็นได้และทำได้ครับ
สู้ ๆ น้องเตย