ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

ThaiSEOBoard.comอื่นๆCafeใ น คื น ที่ ฉั น เ จ อ ผี
หน้า: 1 [2]   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: ใ น คื น ที่ ฉั น เ จ อ ผี  (อ่าน 11224 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
คุณป้าขา
เจ้าแม่ปราบเกรียน
Administrator
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 68
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,679



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #20 เมื่อ: 28 พฤษภาคม 2008, 23:27:46 »

ตะกี้เพิ่งดูเทปตีสิบ  สยองดี
แนะนำให้ปิดไฟดู  Tongue

หากท่านเป็นสามีภรรยาที่หมางเมินกันอยู่แนะนำให้ดูร่วมกันค่ะ  รับประกันรักกันในบัดดล
ป้า ผมเจอ จนบางที ไม่รู้แล้วว่าคนหรือผี
อย่าที่บอกอ่ะ ตัวอย่างยายบ้านตรงข้างท่านมาแบบคนธรรมดา ปกติทุกอย่าง ไม่มีอะไรบ่งบอก

ป้าครับ ยังไม่มีภรรยาทำอย่างไรดี อ๊างงง

แนะนำตุ๊กตาดอลลี่ค่ะ
บันทึกการเข้า

Galadriel
ก๊วนเสียว
*

พลังน้ำใจ: 1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 260



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #21 เมื่อ: 29 พฤษภาคม 2008, 00:03:28 »

เพิ่งรู้ว่าผีก็มีน้ำหนัก.... โอ้โห ผีขว้างของ เตียงยุบลงไป นี่มัน ค.ศ. 2008 อยู่รึปล่าวเนี่ย สงสัยเราเกิดผิดยุค!  Shocked
บันทึกการเข้า

siamman
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #22 เมื่อ: 29 พฤษภาคม 2008, 00:19:46 »

เพิ่งรู้ว่าผีก็มีน้ำหนัก.... โอ้โห ผีขว้างของ เตียงยุบลงไป นี่มัน ค.ศ. 2008 อยู่รึปล่าวเนี่ย สงสัยเราเกิดผิดยุค!  Shocked


 Grin Grin Grin

คนที่กลัวๆ ผี ลองหาหนังบิวตี้ ฟูลมายด์ มาดูนะครับ



-----------------------------------------------------------------------------------------------------
สร้างจากเรื่องจริงของ John Forbes Nash hปปp://en.wikipedia.org/wiki/John_Forbes_Nash

เรื่องนี้ทำไห้ผมเลิกกลัวผีและเชื่อเรื่องผีไปโดยปริยาย มันทำให้ความเชื่อของผมที่ว่าหากใครเชื่อเรื่องผีหรือกลัวเรื่องผีมากๆ สมองก็อาจจะสร้างภาพหลอนนั้นขึ้นมาปรากฎให้เราเห็นเอง หรือเข้าสู่ภาวะจิตเสื่อม

 Smiley ความเชื่อส่วนบุคคลนะครับ










 :Dตอนนี้ผมก็เริ่มหวาดกลัว Leah Dizon มากเลยครับ Cheesy
บันทึกการเข้า
Rapture
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 116
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 639



ดูรายละเอียด
« ตอบ #23 เมื่อ: 29 พฤษภาคม 2008, 00:28:29 »

"...ฉันได้ยินเสียงแม่ฉัน โทรไปห้องทีมงาน พร้อมกับบอกว่าน้องเข้าห้องน้ำไปนานมากแล้ว เรียกก็ไม่ตอบ ให้ทีมงานมาช่วยกันพังประตูห้องน้ำ

สักพักพี่ ๆ ทีมงานก็วิ่งมาช่วยกันพังประตู พร้อมตะโกนเรียกฉัน ฉันได้ยินทุกอย่าง แล้วฉันก็ร้องตะโกนตอบออกไปแต่ไม่มีใครได้ยินฉันเลยสักคน

จนอึดใจหนึ่ง ที่ฉันตั้งใจสวดมนต์พร้อมกับกระชากมือออกจากผู้หญิงคนนั้นได้สำเร็จ ก็เป็นจังหวะเดียวกับที่แม่ฉัน และทีมงานพังประตูได้สำเร็จ

ตอนนั้นในความเป็นจริงฉันจมน้ำไปนานแล้ว กำลังจะตายแล้วล่ะ แต่แม่และพี่ ๆ ทีมงานมาช่วยฉันออกจากอ่างน้ำได้สำเร็จ.."

เอ๋  Huh? เมื่อคืนที่ผมฟังจากรายการตีสิบ แม่ของน้องเขาเล่าว่า นอนหลับอยู่ที่เตียง พอตื่นมาไม่เห็นน้องเขา เลยมองดูนาฬิกา ก็เห็นว่าน้องเขาอาบน้ำเป็นชั่วโมงไม่ออกมาสักที จึงผลักประตูห้องน้ำเข้าไปดู เพราะประตูไม่ได้ล็อคเห็นตัวน้องเขาจมไปในอ่างน้ำ น้ำท่วมไปถึงบริเวณหน้าผากแล้ว และมีฟองอากาศปุดขึ้นมาเล็กน้อย จึงรีบเข้าไปดึงตัวลูกสาวขึ้นมา... ไม่เห็นพูดว่ามีการเรียกทีมงานเข้ามาสักหน่อย

ตกลงมันยังไงกันหว่า หรือผมจำผิดไป ??
ผมก็ดูเหมือนกัน ดูว่าเหมือนจะเป็นอย่างที่คุณพูด ไม่เห็นว่าตอนเล่าเรื่องจะพูดถึงทีมงานเลย
แถมอีกอย่างคือ ปกติแล้วเจ้าตัวบอกว่า อาบน้ำกับแม่อยู่บ่อยๆ แปลว่าไม่อายแม่ ประตูก็ไม่ควรจะล็อกนะ

อีกอย่างคือตอนที่เล่าเรื่องที่ตีสิบ ไม่รู้ทำไมผมรู้สึกว่ามีจุดที่มันไม่สมเหตุสมผลอยู่
แต่ไม่รู้ว่าจุดไหน รู้สึกคาใจอย่างบอกไม่ถูก
ผมเลยสงสัยว่าเป็นเรื่องที่แต่งขึ้นหรือเปล่า
บันทึกการเข้า
*~เก้าคุง~*
สายตรวจเสียวบอร์ด
Moderator
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*****

พลังน้ำใจ: 136
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,097



ดูรายละเอียด
« ตอบ #24 เมื่อ: 29 พฤษภาคม 2008, 00:32:50 »

คนที่ไม่เคยเจอก็จะคิดว่ามันไม่มี แต่ก็ไม่ใช่ว่ามันจะไม่มีจริงๆ นะครับ แค่วิทยาศาสตร์ไม่สามารถพิสูจน์ได้เฉยๆ
บันทึกการเข้า
บอท!
ยามว่าง
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 146
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,517



ดูรายละเอียด
« ตอบ #25 เมื่อ: 29 พฤษภาคม 2008, 00:51:50 »

เพิ่งรู้ว่าผีก็มีน้ำหนัก.... โอ้โห ผีขว้างของ เตียงยุบลงไป นี่มัน ค.ศ. 2008 อยู่รึปล่าวเนี่ย สงสัยเราเกิดผิดยุค!  Shocked
อันนี้ไม่รู้ครับ
ไม่เกิดจับ ไม่เคยพิสูจน์
เคยแต่เห็น

บันทึกการเข้า

/*SEO ทำอย่างไร สอนผมบ้างนะครับ*/
Original King is King of all King.
King who come to be Legend.
//all roads lead to rome
สารบัญ (Search Engine Optimization)
--= 10 ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ seo ----dr.k-------
ไม่มีอะไรจ๊ะ
siamman
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #26 เมื่อ: 29 พฤษภาคม 2008, 00:52:22 »

"...ฉันได้ยินเสียงแม่ฉัน โทรไปห้องทีมงาน พร้อมกับบอกว่าน้องเข้าห้องน้ำไปนานมากแล้ว เรียกก็ไม่ตอบ ให้ทีมงานมาช่วยกันพังประตูห้องน้ำ

สักพักพี่ ๆ ทีมงานก็วิ่งมาช่วยกันพังประตู พร้อมตะโกนเรียกฉัน ฉันได้ยินทุกอย่าง แล้วฉันก็ร้องตะโกนตอบออกไปแต่ไม่มีใครได้ยินฉันเลยสักคน

จนอึดใจหนึ่ง ที่ฉันตั้งใจสวดมนต์พร้อมกับกระชากมือออกจากผู้หญิงคนนั้นได้สำเร็จ ก็เป็นจังหวะเดียวกับที่แม่ฉัน และทีมงานพังประตูได้สำเร็จ

ตอนนั้นในความเป็นจริงฉันจมน้ำไปนานแล้ว กำลังจะตายแล้วล่ะ แต่แม่และพี่ ๆ ทีมงานมาช่วยฉันออกจากอ่างน้ำได้สำเร็จ.."

เอ๋  Huh? เมื่อคืนที่ผมฟังจากรายการตีสิบ แม่ของน้องเขาเล่าว่า นอนหลับอยู่ที่เตียง พอตื่นมาไม่เห็นน้องเขา เลยมองดูนาฬิกา ก็เห็นว่าน้องเขาอาบน้ำเป็นชั่วโมงไม่ออกมาสักที จึงผลักประตูห้องน้ำเข้าไปดู เพราะประตูไม่ได้ล็อคเห็นตัวน้องเขาจมไปในอ่างน้ำ น้ำท่วมไปถึงบริเวณหน้าผากแล้ว และมีฟองอากาศปุดขึ้นมาเล็กน้อย จึงรีบเข้าไปดึงตัวลูกสาวขึ้นมา... ไม่เห็นพูดว่ามีการเรียกทีมงานเข้ามาสักหน่อย

ตกลงมันยังไงกันหว่า หรือผมจำผิดไป ??
ผมก็ดูเหมือนกัน ดูว่าเหมือนจะเป็นอย่างที่คุณพูด ไม่เห็นว่าตอนเล่าเรื่องจะพูดถึงทีมงานเลย
แถมอีกอย่างคือ ปกติแล้วเจ้าตัวบอกว่า อาบน้ำกับแม่อยู่บ่อยๆ แปลว่าไม่อายแม่ ประตูก็ไม่ควรจะล็อกนะ

อีกอย่างคือตอนที่เล่าเรื่องที่ตีสิบ ไม่รู้ทำไมผมรู้สึกว่ามีจุดที่มันไม่สมเหตุสมผลอยู่
แต่ไม่รู้ว่าจุดไหน รู้สึกคาใจอย่างบอกไม่ถูก
ผมเลยสงสัยว่าเป็นเรื่องที่แต่งขึ้นหรือเปล่า

มันเคยมีกรณีป้าแก่ๆ ใส่แว่นหนาๆ คนนึงมาออกรายการ โดยทั้งรายการพิธีกรไม่ถามชื่อจริงของป้าแกซักครั้ง ถ้าจำไม่ผิดก็ไม่รู้ว่าป้าแกมาจากใหน ป้าแกก็เห็นผีเหมือนกัน
แต่
พอเข้าช่วงโฆษณาเท่านั้นแหละ
โอ้หล่ะพ่อ
โฆษณาหนังเรื่องแฝดที่ป้ามาช่าแสดงโผล่ตลอดช่วงโฆษณา 2-3 รอบ
 Tongue
บันทึกการเข้า
[email protected]
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 62
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,191



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #27 เมื่อ: 29 พฤษภาคม 2008, 01:01:32 »

มะรู้ว่าเรื่องจิงหรือไม่จิง

แต่เมื่อกี้คุยกับหนามเตย รู้แค่ว่าเค้าน่ารักอะ
บันทึกการเข้า
บอท!
ยามว่าง
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 146
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,517



ดูรายละเอียด
« ตอบ #28 เมื่อ: 29 พฤษภาคม 2008, 01:05:42 »

แง้ ตัดหน้าไปคุยซะงั้น
ไม่ได้ฟังมัวแต่ดู
บันทึกการเข้า

/*SEO ทำอย่างไร สอนผมบ้างนะครับ*/
Original King is King of all King.
King who come to be Legend.
//all roads lead to rome
สารบัญ (Search Engine Optimization)
--= 10 ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ seo ----dr.k-------
ไม่มีอะไรจ๊ะ
komgrit_su
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 50
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,184



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #29 เมื่อ: 29 พฤษภาคม 2008, 03:31:42 »

na rak jing jing duay kub  Cheesy
บันทึกการเข้า

au8ust
ยามหน้าคลังแสง
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 103
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,492



ดูรายละเอียด
« ตอบ #30 เมื่อ: 29 พฤษภาคม 2008, 12:59:06 »

พอดีเข้าโพสต์ต่อ ขอยืมมาโพสต์มั้ง เอิ๊ก ๆ ขออนุญาตินะครับพี่ eastboy

หวัดดีค่ะพี่ๆ
วันนี้มีเรื่องจะให้อ่านพี่ๆอ่าน
แต่ไม่ใช่เรื่องผีนะค่ะ น่ากลัวไม่แพ้เรื่องผีเลยค่ะ

ไปเยี่ยมเยียน หมอน้องชายเล่าเรื่องแปลกของคนไข้รายหนึ่งให้ฟัง

ซึ่งน่าจะเป็นอุทาหรณ์ให้ผู้คนละบาปได้ดีจึงขอเล่าสู่กันฟังต่อ …….

การสนทนาตอนหนึ่งหมอน้องชายเล่าให้ฟังว่า

ตั้งแต่เป็นหมอมาไม่เคยเห็นผู้ป่วยรายใดต้องผ่าตัดทุลักทุเลซ้ำซากอย่างนี้เลย

สามปีต้องผ่าตัดห้าครั้งและหนักหนายิ่งขึ้นทุกครั้ง

ผู้ป่วยรายนี้ชื่อบุญมาครั้งแรกที่เข้าโรงพยาบาลก็เพื่อมาทำแผลที่นิ้วก้อยที่ถูกตะพาบ
น้ำกัด

หมอให้ทายากินยาแก้ปวดแก้อักเสบแล้วกลับบ้านดูแล้วไม่น่าจะมีปัญหาอีก

ครึ่งเดือนต่อมาบุญมากลับมาใหม่แผลเก่าอักเสบรุนแรงบวมใหญ่

หมอตรวจพบว่าเชื้อโรคกินเข้ากระดูก จะต้องตัดนิ้วเพื่อไม่ให้เน่าลุกลาม

ซึ่งนิ้วเท้านั้นอาจทำให้ถึงแก่ชีวิตได้

หลังจากนั้นครึ่งปีบุญมาไปเที่ยวชายทะเลเขาถูกตะพาบน้ำกัดที่นิ้วเท้าอีก

อะไรจะเจาะจงได้ถึงอย่างนั้นนิ้วเท้าของบุญมาที่ถูกตะพาบน้ำกัดครั้งที่สองอักเสบบวมให
ญ่

ภายในเวลาสองวัน เมื่อมาฉายเอกซเรย์ที่โรงพยาบาลก็ได้พบอีกว่า

เชื้อโรคกินเข้าไปถึงกระดูกหมดจึงต้องตัดนิ้วเท้าของเขาไปอีกหนึ่งนิ้ว

เวลาผ่านไปไม่ถึงหนึ่งปีบุญมากลับมาที่โรงพยาบาลอีก

ครั้งนี้แผลเก่าทั้งสองแห่งเกิดอักเสบบวมใหญ่ขึ้นพร้อมกัน

พอเอกซเรย์ก็พบว่าแย่แล้ว ! เชื้อโรคแพร่เข้าไปกินกระดูกอย่างรุนแรง

เชื้อโรคนั้นกำลังกลายเป็นมะเร็ง จะต้องผ่าตัดฝ่ามือฝ่าเท้าออกให้หมดก่อนที่จะลุกลามขึ้นไปอีก

บุญมาต้องนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลถึงยี่สิบกว่าวันด้วยสภาพของผู้ป่วยด้วน

วันหนึ่งลูกชายของญาติอุปสมบทบุญมาไปช่วยงาน คืนนั้นผู้ร่วมงานบวชนอนค้างที่วัดกันสี่ห้าสิบคน

เคราะห์หามยามร้ายของบุญมายังไม่จบสิ้นหนูตัวหนึ่งเจาะจงมา กัดตรงขาด้วนของบุญมาคนเดียว กัดแล้วก็หนีไป

บุญมาสะดุ้งตื่นด้วยความเจ็บปวดคนที่นอนอยู่ด้วยกันตกใจกับเสียงร้องพากันตื่นหมด

แผลที่หนูกัดไม่กว้างไม่ลึกนักมีเลือดซึมออกมาแต่ทุกคนพากันตกใจที่อยู่ดีๆ

ทำไมจึงมีหนูมากัดคนนอนหลับเพราะหนูจะกัดกินก็เฉพาะศพเท่านั้น

ไม่กัดกินคนเป็นๆบุญมาขวัญเสียถูกเคราะห์กรรมซ้ำเติมจนคิดว่าตนคงจะต้องตายในไม่ช้า

มันทารุณจิตใจมากไม่นานต่อมาเกิดอาการเจ็บคันบริเวณแผลเก่าที่มือที่เท้าอีก

บุญมารีบมาหาหมอที่โรงพยาบาลโดยเร็ว

ผลการฉายเอกซเรย์ปรากฏว่าเชื้อมะเร็งกินลึกเข้าไปมาก หมอจำเป็นต้องจัดการตัดแขนขาทั้งท่อนของบุญมาทิ้งไป


หมอน้องชายซึ่งเป็นเจ้าของคนไข้แปลกใจในชะตากรรมของบุญมานัก

จึงสอบถามประวัติอย่างละเอียดอีกครั้งไว้และได้ความว่า

บุญมาชายอายุยี่สิบสามปี อาชีพเกษตรกรรมและรับจ้างก่อสร้าง ชอบดื่มเหล้าเป็นประจำชอบแกล้มเหล้าด้วยปลาน้ำจืด
โดยเฉพาะชอบกินเต่ากินตะพาบ

บุญมาเคยได้ยินมาว่าใครกินตะพาบน้ำได้สิบถึงยี่สิบตัวแล้ว

ตลอดชีวิตจะไม่เป็นโรคไขข้ออักเสบอีกทั้งยังช่วยบำรุงไต

บุญมาจึงเพียรหาตะพาบน้ำมาผัดเผ็ดแกล้มเหล้าขาว บุญมากินตะพาบน้ำมาแล้วเกือบยี่สิบปี นับไม่ได้แล้วว่ากินเข้าไป
ได้กี่ตัว วันหนึ่งบุญมาซื้อตะพาบน้ำตัวใหญ่จากตลาดมา

ตะพาบน้ำตัวนี้น้ำหนักตั้งสิบกว่ากิโลกรัมเขาดีใจมาก ตัวใหญ่ขนาดนี้ฆ่ากินทีเดียวไม่หมดจะต้องค่อยๆกิน ที่บ้านไม่มีตู้เย็นให้แช่เก็บได้จึงต้องกินผ่อนทีละน้อย ตะพาบน้ำเป็นสัตว์อายุยืนอดทนไม่ตายง่ายๆ ไม่ว่าจะถูกกักขังอยู่ในสภาพใดก็อดทนมีชีวิตอยู่ได้เป็นปี

บุญมาเห็นแก่กินไม่นึกถึงว่าตะพาบจะต้องทนทุกข์ทรมานนานเพียงไร ต้องเจ็บปวดแสนสาหัสครั้งแล้วครั้งอีก

เขาตัดเฉือนเนื้อตะพาบส่วนต่างๆ ตามความพอใจมาปรุงอาหารทีละชิ้นๆ บาดแผลรอบตัวตะพาบเขาทาด้วยปูนแดงที่กินกับหมากเพื่อไม่ให้เนื้อตัวตะพาบเน่า ตะพาบตัวนั้นต้องทนทุกข์ทรมานอยู่นานกว่าครึ่งเดือน

จากนั้นบุญมาจึงประหารเอามากินเป็นมื้อสุดท้าย บุญมาพอใจกับวิธีที่จะได้กินเนื้อตะพาบสดๆ ทุกวันอย่างนี้เรื่อยมา

ผลสรุปประวัติผู้ป่วยที่โรงพยาบาลบันทึกไว้ในตอนท้ายมีอยู่ประโยคหนึ่งว่า …..

เป็นประวัติที่แสดงให้เห็นกรรมตามสนองอย่างไม่น่าเชื่อที่ไม่มีข้อสรุปชัดเจน ในทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ปัจจุบัน

ปล.คุณควรตระหนักถึงการกระทำที่คุณได้ทำอยู่ในทุกวันนี้

ถึงผลดีและผลร้ายที่คุณได้กระทำลงไป มันจะส่งผลกลับมาหาคุณเอง ที่เรียกกันว่า ” กรรมตามสนอง ” นั้นเอง

จากคุณ : cHipPyDaLE - [ 26 พ.ค. 51 13:45:22 ]
บันทึกการเข้า
au8ust
ยามหน้าคลังแสง
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 103
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,492



ดูรายละเอียด
« ตอบ #31 เมื่อ: 29 พฤษภาคม 2008, 12:59:42 »

วันนี้ย่านที่ทำงานผม ฝนตกหนักมาก มองออกไปนอกหน้าต่าง รถก็ติดยาวเยียด
ผมขี้เกียจออกไปแย่งพื้นที่บนถนนกับคนอื่น ๆ เลยขอทำตัวดูเหมือนขยันนั่งจิ้มแป้นคอมไปเรื่อย ๆ

ใครผ่านก็คงคิดว่าผมกำลังปั่นงานหวังโบนัสก้อนใหญ่ หรือกำลังสร้างสรรค์โฆษณาใหม่ ๆ แน่นอน
แต่ขอโทษเถอะ วันนี้ผมแอบเล่นเนต แวะเข้าพันทิป ไม่รู้จะอ่านอะไรแก้เซ็งดี เลยขอตัวช่วยเป็นกระทู้แนะนำ
ซึ่งก็ทำให้ผมมาเจอกระทู้นี้เข้าละครับ

กระทู้นี้เป็นกระทู้ที่อ่านแล้วน่าตกใจมาก ๆ ไม่ใช่แค่เรื่องผีที่อ่านแล้วมันน่าตกใจ
แต่ที่ผมตกใจมากกว่านั้นก็คือ ชื่อเจ้าของกระทู้ ที่ชื่อหนามเตยนี่แหละ

ผมนั่งคิด คิดว่า มันจะมีสักกี่คนบนโลกในนี้ ที่พ่อแม่จะสรรหาชื่อแปลก ๆ แบบนี้มาตั้งให้ลูกว่า “หนามเตย”
ชื่อนี้คุ้นหูมาก ๆ เพราะชื่อเหมือนน้องสาวคนหนึ่งที่ผมเคยรู้จักเนื่องจากเคยทำงานในออฟฟิคเดียวกัน

ไม่รู้ว่าบุญพาวาสนาส่งให้ต้องมาพบกันอีกครั้งหรือเปล่า เพราะผมเกิดอยากรู้ว่าใครเน้อ จะมีชื่อแปลก ๆ แบบน้องสาวเรา เลยนั่งอ่านกระทู้ไปเรื่อย ๆ (เห็นมีหลายภาค หลาย Episode เหลือเกิน) เพราะหวังจะเจอกับคำตอบ แวะเข้าเวปโน้นเวปนี้ อย่างเวปด้านบนที่มีคนทำลิ้งค์มา http://ssde.nida.ac.th/ และก็ไฮไฟว์อีก http://namteoi.hi5.com

แหละแล้วผมก็พบกับคำตอบ น้องหนามเตยจริง ๆ ซะด้วย หวัดดีครับ สบายดีนะ ไม่ได้พบกันนานเลย มาเจอกันอีกทีกลายเป็นเจ้าแม่กระทู้ผีไปซะแหละน้องเรา ยินดีด้วยจ้า แล้วเดี๋ยวพี่คงจะขอเริ่มยุทธการณ์เผาเจ้าแม่เล่น ๆ ดีกว่า เพราะตอนนี้พี่ว่างมาก เบื่อ ๆ หาไอเดียทำงานไม่ออก ขอแซวน้องให้เกิดอารมณ์ขัน แล้วเดี๋ยวจะหันกลับไปทำงานต่อละ

ผมรู้จักน้องหนามเตยเมื่อประมาณสามปีก่อน เพราะว่าผมเป็นกรรมการอีกคนหนึ่งที่สัมภาษณ์ตอนน้องมาสมัครทำงานในบริษัทโฆษณาที่ผมทำอ
ยู่ จำได้ว่าวันนั้นมีคนมาสัมภาษณ์งานหลายคน แต่เรารับตำแหน่งเดียวซึ่งก็คือตำแหน่งนี้นี่แหละ

ผมและคณะกรรมการสัมภาษณ์คนอื่น ๆ ตัดสินใจรับน้องเข้าทำงานก็เพราะว่าน้องคนนี้มีประวัติที่ดีและน่าสนใจมาก และที่สำคัญถามเธอว่าอยากได้เงินเดือนเท่าไหร่ น้องบอกว่า “เท่าไหร่ก็ได้ค่ะ”
นี่คงเป็นเหตุผลที่กรรมการทุกคนตัดสินใจรับเธอทำงานกันแทบไม่ทัน ฮ่า ๆ ๆ

ข้อความด้านบน ผมล้อเล่นครับ แต่มันก็เป็นเรื่องจริงทั้งหมดนั่นแหละ ฮ่า ๆ ๆ

ประวัติของน้องหนามเตยก็คงเป็นประวัติเหมือนกับลูกคุณหนูทั่ว ๆ ไปที่ผมเคยเจอ ก็คือ จบคอนแวนต์ มีที่บ้านมารับมาส่ง อย่างน้องเตยนี่เวลามาทำงาน ก็จะมีคุณพ่อคุณแม่ผลัดกันมารับมาส่งตลอด เรียกได้ว่าหนุ่มคนไหนคิดจะจีบคงต้องคิดหนักเพราะหาเวลาเข้าไปคุยกับน้องก็ยากแล้ว ยิ่งจะชวนไปไหนมาไหนนี่ไม่ต้องพูดถึง
คือไม่มีทาง

แต่น้องเตยไม่ธรรมดาตรงที่ เธอเรียบร้อยมาก ๆ ๆ ๆ แถมเธอทำงานทุกอย่างเป็นหมด หัวไวมาก สั่งอะไรทำได้หมด และที่สำคัญทำงานด้วยรอยยิ้ม ผมเห็นน้องมาทำงานเป็นคนแรกก่อนใคร แล้วก็ทำงานทุกอย่างทั้งในหน้าที่ และไม่ใช่หน้าที่

ที่บอกว่าไม่ใช่หน้าที่ ก็คือ ผมเห็นเธอถวายน้ำพระที่ออฟฟิคทุกวัน เดี๋ยวก็ซื้อพวงมาลัยมาถวาย เดี๋ยวก็ซื้อดอกไม้มาถวาย แถมเอาขนมมาฝากพี่ ๆ ในออฟฟิคอีก อย่างนี้ใครจะไม่เอ็นดูน้องละครับ บางวันเห็นน้องช่วยเพื่อนถูพื้น กวาดออฟฟิค ยกของ เก็บของ เสริฟน้ำ ชงกาแฟอีก (นี่เป็น GB ชัด ๆ ) แต่น้องชงกาแฟอร่อยมากครับ

แล้วน้องเป็นคนไม่ถือตัว เธอมีเพื่อนสนิทเป็นแม่บ้าน เป็นแมสเซ็นเจอร์อีกด้วย เวลาผมเห็นเธอไปทานข้าวกลางวันที ก็จะไปกับเพื่อนที่ผมบอกด้านบนนี่ละ แล้วก็จะไปกับเจ้าเป้ลูกสาวเจ้าของบริษัทกระทิงแดง

กลุ่มนี้เค้าแปลก ๆ ครับ มีตั้งแต่ระดับไฮโซจนถึงโลโซ แต่ก็เห็นคบกันได้ ไม่มีปัญหา แถมเป็นกลุ่มเด็กในออฟฟิคที่เวลาคุยกันเล่นกันดูคล้ายเด็กมัธยมจริง ๆ แต่เวลาทำงานก็จริงจังจนน่าตกใจ

นอกจากน้องเตยจะเป็นคนที่เรียบร้อยมาก ๆ แล้ว เธอเป็นผู้หญิงคนแรกและคนเดียวในออฟฟิคที่ได้รับช่อดอกไม้ทุกวัน สร้างความมึนงงกับสาว ๆ ในออฟฟิคและพวกผมเป็นอย่างมากว่าใครกันวะมันช่างลงทุนซะจริง ๆ เรียกได้ว่าตั้งแต่มีน้องเข้ามาอยู่ในออฟฟิค หัวบันไดออฟฟิคเราไม่เคยแห้งครับ

ผมเห็นตั้งแต่ลูกค้า ซับพลายเออร์ ออฟฟิคข้าง ๆ เดี๋ยวก็ซื้อน้ำ ซื้อขนมมาให้น้องเป็นประจำ ทำให้พวกผมพลอยอิ่มไปด้วย เพราะน้องเอามาแบ่งพี่ ๆ ทุกคน ผมไม่เห็นน้องกล้าทานของใครเลย สงสัยคงกลัวโดนใส่ยาพิษ แต่พวกผมและเพื่อน ๆ ไม่เคยกลัวครับ แย่งน้องทานกันจนหมดไม่มีเหลือทุกวัน

น้องเป็นคนที่น่ารักและมีเสน่ห์มาก ๆ เสน่ห์ของน้องไม่ได้อยู่แค่หน้าตาหรอกครับ แต่ผมว่าน่าจะอยู่ที่นิสัยมากกว่า เพราะบอกได้คำเดียวว่า ผู้หญิงคนนี้นิสัยดีมากจริง ๆ โอบอ้อมอารี พูดเพราะ ยิ้มง่าย ขยัน ทำงานเก่ง จริงจังและตั้งใจ

ผมเห็นขนาดยาม แม่บ้านในตึก บางวันลงขันกันซื้อข้าวเหนียวหมูปิ้งมาให้น้องทาน บางวันก็ปอกมะม่วงมาให้ ผมเคยหลอกถามยามกับป้าแม่บ้านของตึกว่า ทำไมถึงต้องลงทุนซื้อของมาให้น้องเตยด้วยล่ะ ยามกับป้าแม่บ้านบอกผมว่า “น้องคนนี้นิสัยดีมาก ๆ เวลามีขนม มีอะไรก็จะเอามาเผื่อแผ่พวกเขาเสมอ แล้วก็พูดจาดีมาก ๆ พูดเพราะ มีน้ำใจ ไม่ดูถูกคนจน ๆ อย่างพวกเขาซึ่งถ้าเป็นคนอื่นคงไม่เคยมีใครทำดีกับพวกเขาแบบนี้ พวกเขาก็เลยอยากจะตอบแทนน้องบ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ ผมฟังแล้วถึงกับพลอยตื้นตันไปด้วยเลย (ฝนหยุดตกแล้ว การจราจรคล่องตัว เดี๋ยวผมขอขับรถกลับบ้านก่อนครับ แล้วเดี๋ยวจะมาเล่าประวัติคร่าว ๆ ของน้องเตยให้ฟังกันต่อ เพราะตอนนี้ผมกำลังคันมือ และเชื่อว่าแฟนคลับของน้องคงอยากจะรู้กันบ้าง ถ้าไม่ง่วงไปซะก่อน จะมาเล่าต่อครับ)

กลับถึงบ้านแล้วครับ มาเผาน้องเตยต่อดีกว่า เพราะวันนี้ผมว่างงงงง หาไอเดียคิดงานไม่ออกจริง ๆ ครีเอทีฟก็งี้แหละครับ วันนี้หมดมุข มุขตัน คิดงานไม่ออก ก็จะหาอะไรแก้เซ็งทำ เพราะทำแล้วจะเกิดไอเดียใหม่ ๆ ได้เสมอ

เผาน้องเตยต่อดีกว่า เมื่อกี้เล่าไปถึงไหนแล้วนะ ลืม

ที่ออฟฟิคจะมีงานเลี้ยงพนักงานในออฟฟิค มีการประกวดร้องเพลงด้วย พนักงานทุกคนในออฟฟิคสมัครประกวดร้องเพลงกันหมดเพราะว่าถ้าชนะจะได้รางวัลเป็นเงินสดสา
มพันบาท แต่น้องเตยเธอเป็นคนเดียวที่ไม่ได้สมัคร คงเป็นเพราะว่าเธออายและเพิ่งเข้าทำงานใหม่ ๆ มั้งครับ

แต่สรุปคืนนั้น CEO ของออฟฟิคก็บังคับให้น้องเตยร้องเพลง ทุกคนในออฟฟิคก็ตกใจ เพราะว่ากลัวน้องจะขึ้นไปร้องให้ เพราะเห็นน้องหน้าเสีย แต่พอน้องร้องเพลงออกมาก็ทำเอาทุกคนนั่งอึ้งกันเป็นแถว น้องเตยเป็นคนที่ร้องเพลงเพราะมากครับ ร้องเหมือนเทปเป๊ะ ๆ เลย สรุป รางวัลในคืนนั้นก็กลายเป็นของน้องไป
และตั้งแต่นั้นมาเวลามีงานเกี่ยวกับการใช้เสียง ไม่ว่าจะเป็นงานพากษ์ ลงเสียง ไกค์เสียงให้ดาราหรือคนดัง ก็จะใช้เสียงน้องเตยนี่ละครับ เพราะน้องเค้ามีพรสวรรค์ทางด้านนี้มาก คือ เสียงเค้าสวยมาก (และพี่ก็มารู้วันนี้ว่า น้องมีพรสวรรค์ด้านการเขียน และเมื่อสักพักพี่แวะไปดูที่น้องเป็นพิธีกรให้มหาลัยมาก็ถือว่านี่ก็คงจะเป็นพรสวรรค์อ
ีกอย่างนึงนะ)

อ้อ....น้องเตยจะโชคดี หรือโชคร้ายก็ไม่รู้อยู่อย่างนึง ก็คือ เธอมีหัวหน้าที่ดุมาก ๆ เขี้ยวสุด ๆ ตำแหน่งของเตยเป็นตำแหน่งที่สาว ๆ หลายคนอยากทำ แต่ทำได้ไม่นานก็จะออก เพราะไม่มีใครสามารถทนความดุ ความเขี้ยวของหัวหน้าได้
สรุปแล้วสาว ๆ ที่เข้ามาทำตำแหน่งน้องเตยจะอยู่ได้ไม่เกินสองสัปดาห์ก็จะลาออกไปเอง หรือโดนไล่ออกไปเอง แต่น้องเตยเธอเป็นผู้หญิงคนแรกครับที่มาทำงานในตำแหน่งนี้ แล้วอยู่นานมากที่สุด ผมก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึงทำให้เธออยู่นานมากที่สุด อาจจะเป็นเพราะความอดทนมั้งครับ

จนมาวันช่วงก่อนที่น้องจะลาออกมาเรียนต่อโทนี่ละครับ ผมเคยถามว่า จะเรียนต่อโทด้านไหน น้องตอบว่า อยากเรียนด้านพัฒนาสังคม ผมก็งงว่าจะเรียนไปทำไมฟะ เพราะมันไม่เกี่ยวกับงานที่ทำอยู่เลย ก็เลยถามน้องไปว่าจะเรียนด้านนี้ทำไม ทำไมไม่เรียนนิเทศต่อเพราะว่าน้องมีพรสวรรค์ด้านนี้มาก ๆ และถ้าไปเรียนพัฒนาสังคมแบบนั้นผมก็เห็นว่ามันไม่ตรงสาย

น้องเตยบอกว่า เค้าอยากเป็นสื่อมวลชนที่ดี เป็นสื่อมวลชนที่ช่วยพัฒนาสังคม พัฒนาคุณภาพชีวิตของคนควบคู่ไปกับการให้ความบันเทิงไปด้วย ผมฟังแล้วได้แต่อึ้งเพราะตลอดชีวิตการทำงานในวงการบันเทิงมา บอกตรง ๆ ผมไม่เคยคิดไกลขนาดน้องเตยเลยครับ ผมแค่คิดว่าจะทำยังไงให้ลูกค้าอยู่กับเรานานที่สุด จะทำยังไงให้โฆษณาที่ผมคิดออกไปโดนใจลูกค้าและกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด หรือทำยังไงให้โฆษณาของผมเบียดคู่แข่งเท่านั้น

แต่ผมไม่เคยคิดว่าสื่อมวลชนต้องรับใช้สังคมอะไรขนาดนั้น แต่ในเมื่อน้องเตยคิดดีขนาดนี้ ผมก็อวยพรกับน้องเตยครับ ผมว่าน้องเค้าคิดดี และคิดเป็น และในที่สุดน้องเตยก็ลาออกมาเรียนต่อโทตามความตั้งใจ ก็สร้างความโศกเศร้าเสียใจให้กับหนุ่ม ๆ แถวนั้นเป็นแถว
ตั้งแต่น้องเตยลาออกลูกค้าลดลงครับ เพราะสมัยที่น้องเตยอยู่ลูกค้าจะชอบน้องมาก ๆ ทั้งลูกค้าชายหญิงทำให้งานเข้าเยอะมาก ลูกค้าสาวใหญ่ก็เอ็นดูน้องมากครับผมเห็นชอบซื้อขนมมาฝากน้องเป็นประจำ พอน้องเตยออกผมเห็นเพื่อนของน้องสองสามคนนั่งร้องไห้ตาแดง ๆ ผมยังแซวเลยว่าร้องไห้ดีใจเหรอ เพื่อนบอกเค้าบอกว่า “ใช่” เอ้ย ไม่ใช่ครับ ผมมุข
คือ เพื่อน ๆ ของน้องเค้าเสียใจมากครับที่น้องออกไปเรียนต่อ แต่ก็คงเข้าใจแหละว่าคนเรามันก็ต้องเดินหน้า ต้องมีอนาคต ต้องเดินตามความฝันกันต่อไป ตอนนี้หลาย ๆ คนในออฟฟิคยังรอให้น้องเตยรีบ ๆ เรียนจบแล้วกลับมาทำงานเร็ว ๆ อยู่นะครับ

อ้อเมื่อกี้ผมอ่านความเห็นของคุณพี่เปิ้ลนะคะในความเห็นที่ 359 ผมอยากจะบอกว่า ผมเห็นด้วยกับคุณครับ
เพราะผมก็เชื่อว่าน้องเตยทำได้เหมือนกัน เพราะเท่าที่ผมรู้จักน้องเตยมา ผมก็เห็นว่าน้องมีพรสวรรค์ด้านนี้มากจริง ๆ และผมก็คิดว่าเราควรช่วยกันสนับสนุนน้องนะ เพราะถ้าน้องได้ขึ้นมาจริง ๆ คนอย่างผม หรือคุณ หรือใครหลาย ๆ คนที่ช่วยกันสนับสนุนน้องก็คงจะมีความสุขกันบ้างละครับ เพราะเราถือว่าเราสนับสนุนถูกคนนี่นา

ไปอาบน้ำก่อนนะครับ ส่วนน้องเตยพี่เห็นเขียนว่า พรุ่งนี้จะไปเป็นพิธีกรที่งานพุทธมณฑลเหรอครับ พี่ก็ขอให้น้องทำให้เต็มที่นะครับ ขอให้สนุกกับการทำงาน ยังไงก็ขอให้ได้เป็นพิธีกรมืออาชีพไปเลยนะครับเพราะพี่เชื่อว่าเราเป็นได้และทำได้ครับ
สู้ ๆ น้องเตย
บันทึกการเข้า
barbies55
Verified Seller
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 417
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11,521



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #32 เมื่อ: 29 พฤษภาคม 2008, 13:34:39 »

อ่านเรื่องตะพาบแล้วขนลุกเลยค่ะ ยิ่งกว่าเรื่องผีอีก เพราะสิ่งที่น่ากลัวกว่าผี ก็คือเจ้ากรรมนายเวรนี่ล่ะ
บันทึกการเข้า

รับทำเทมเพลท รับโมเทมเพลทให้เข้ากับสคริปต์ต่างๆ


On the Internet, Never One Know You are a Dog.
ผ้าขี้ริ้วห่อทองย่อมเป็นทองฉันใด เอาทองเปลวมาห่อขี้ก็ยังเป็นขี้ฉันนั้น
หน้า: 1 [2]   ขึ้นบน
พิมพ์