ต่อไป »

[elik_mono]

 
ขอสอบถามความเห็นครับ ผมเคยลอง upload joomla แล้ว พอset up เสร็จ เข้าไปใช้ เเล้ว งงเลยครับ แต่ wordpress นี่มันใช้ง่ายนะครับ
ใครคิดไงลองแนะนำหน่อยนะครับ

    

[Parkker]

จะทำเว็บอะไรอะครับ 

[elik_mono]

จะทำเว็บอะไรอะครับ 

ลองยกตัวอย่างมาให้ผมดูหน่อยได้มั้ยครับ ว่าอันไหนควรทำกับ joomla หรือ อันไปนเหมาะกับ wordpress
 

[Parkker]

จะทำเว็บอะไรอะครับ 

ลองยกตัวอย่างมาให้ผมดูหน่อยได้มั้ยครับ ว่าอันไหนควรทำกับ joomla หรือ อันไปนเหมาะกับ wordpress
 

มันก็อธิบายยากอะครับ มันก็ทำได้เหมือนๆ กันครับ อยู่ที่ function ของเว็บมากกว่า สุดท้ายแล้วถ้าจะทำเว็บแจ่มๆ ยังไงก็ต้องโมอยู่ดี
ผมว่าถ้าใช้ Wp คล่องก็ใช้ Wp ดีแล้วครับ ผมก็ไม่ถนัด Joomla เหมือนกัน ค่อนข้างจะงง แต่หนังสือ Joomla มีให้ศึกษาเยอะ
ยังไงก็ลองศึกษาดูครับ แต่ผมชอบ Drupal 

[nakahashi]

สรุปง่ายๆ ได้ว่า

หน้าตาทั่วไป กรอบๆ จัดขอบยากหน่อย
ใช้ง่าย ลงง่าย ติดตั้ง ง่าย ไม่ยุ่งยาก 5 นาทีเสร็จ = Wp

สวยงาม จัดหน้าตาได้ ลัลลา
แอบมั่ว ใหญ่ ไฟล์เยอะ หนักโฮส นิดๆ แต่คุณภาพ สูงลิ่ว = Joomla

ปล. ความคิดเห็นส่วนตัว ที่ประสบมาจ้า

[loner]

จริงๆก็ใช้ได้ทั้งสองตัวครับ แต่ถนัดตัวไหนใช้ตัวนั้นเลยครับ WP ก็ใช้ง่ายดี

[jaras]

ข้อเปรียบเทียบนี้ สำหรับผู้ที่นำ script ไปใช้โดยมีทักษะด้าน php ไม่เก่งมาก (ไม่ใช่นักโมขั้นเทพ) นะครับ

ข้อดีของ wordpress
1. wordpress สามารถกำหนดบทความ 1 บท ให้อยู่ในหลากหลาย category ได้ แต่ joomla ได้แค่ 1 อัน / 1 บทความ
2. ตัว wordpress เอง (ไฟล์พื้นฐานที่มาจาก wordpres..org) มีฟังก์ชั่น comment, กำหนดชื่อ url ในแต่ละบทความได้เอง โดยไม่ต้องลง plugin เพิ่ม, search โหลดและ install plugin ที่อยากได้เพิ่มเติมได้เลยในหน้า admin โดยไม่ต้องเสียเวลาโหลดมาเก็บไว้ หรือ up ขึ้นโฮสอีกรอบ
3. มีระบบ auto update ทั้ง script wordpress ตัวหลักและ plugin ทุกตัวที่ลง ถ้ามีการ update กดคลิ๊กเดียว ก็ update เสร็จเลย (ง่ายมากๆ)
4. จำนวน database ที่ใช้ น้อยกว่าเมื่อเทียบกับ joomla ทำให้เวลาเรียกหน้าเว็บ จะรู้สึกได้ว่า wordpress เร็วกว่า joomla เล็กน้อย (ไม่นับรวมการปรับแต่งอื่นๆ ให้เว็บเร็วขึ้นนะครับ)
5. theme มีให้เลือกโหลดเยอะพอควร
6. การโพสบทความ สามารถใช้ software microsoft writer เขียนได้เลย (เหมือนเขียนใน word) แล้วก็ save ไว้ก่อน พอต่อเนตก็ค่อยให้มัน update ให้ ทำให้เราสามารถเตรียม content ไว้ล่วงหน้าได้เยอะมาก
7. auto ping สุดยอดเครื่องมือเด็ด ที่ชนะ joomla (แม้ว่า joomla จะมี plugin auto ping แต่สู้ wordpress ยังไม่ได้ครับ)

เอาละ มาดูข้อด้อยบ้าง
1. หากต้องการติดตั้งโฆษณา เช่น ป้ายโฆษณา banner, adsense ในแต่ละจุดของหน้าเว็บ ระบบ wordpress จะให้เราแก้ไขที่ theme ซึ่งถ้าไม่ใช่นักโมขั้นเทพ ก็จะได้แต่แปะป้ายเพียง ด้านบน ด้านข้าง (ซ้ายขวา) ด้านล่าง แต่หากต้องการแทรกตรงกลางหน้าเว็บ หรือทำให้หน้าเว็บเป็นแบบวาไรตี้ เป็นกล่องๆ (เหมือนในเว็บ sanook.com จะเห็นว่าเขาแบ่งเนื้อหาออกเป็นกล่องๆ ) อันนี้ถ้าไม่โมขั้นเทพ ก็ยากครับ  
2. การติดตั้ง script เพิ่มเติม เช่้น amazon, forum โดยมาก จะเป็นการเปิดหน้าใหม่ ไม่สามารถดึงผลการแสดงผลบางส่วนมาแสดงในหน้าหลักได้ เช่น หากเรามีการลง webboard ไว้ด้วย การจะดึง top 5 กระทู้ใหม่ มาวางในหน้าแรก ต้องแทรก code พิเศษลงไป (มือใหม่งงไปเลยครับ)
3. theme ของ wordpress เขียนยากกว่า joomla ครับ เพราะว่าเขียนหลายไฟล์มาก   อันนี้ผมเขียน template joomla ใช้เอง พอมาเจอ wordpress จะสังเกตได้เลยว่าใช้เวลามากกว่า joomla หลายเท่า เพราะว่าต้องเขียนหลายไฟล์มากขึ้น และเป็น php หมดครับ (ใครไม่เป็น php ก็เดี๊ยงไปอีก  )

สรุป สำหรับ wordpress นะครับ ถ้าไม่เก่งจริง การปรับแต่งให้สวยงามขั้นเทพ ถ้าไม่ซื้อ theme ที่เขาโมมาให้แล้วละก็ ยากครับที่จะสร้างเว็บสวยๆ ดูไร้กลิ่้นอายของ blog แต่ถ้าคุณต้องการอะไรที่ง่าย wordpress เลยครับ แต่หากต้องการทำเว็บเพื่อเน้นการขายโฆษณา ติด adsense หลากหลาย อาจจะยากไปนิด

[Parkker]

กระจ่างแจ้งง 

ขอร้องละ Review การโม Theme Drupal เพิ่มเติมให้ป๋มหน่อยได้ไหมครับ ว่าถ้าเปรียบเทียบกะ Joomla แล้ว
อันไหนมีความซับซ้อนมากกว่ากัน

Thank แล้วนะครับ ขอบคุณครับ

[numau109]

จะทำเว็บอะไรอะครับ 

ลองยกตัวอย่างมาให้ผมดูหน่อยได้มั้ยครับ ว่าอันไหนควรทำกับ joomla หรือ อันไปนเหมาะกับ wordpress
 

ผมว่า joomla โมได้หลากหลายกว่า (มั้งครับ)

ส่วน wordpress นี่ เป็นแนว blog ๆ  เคยโมเท่าไหร่ก็ไม่หลุดแนว blog เลย

drupal ไม่เคยเล่นครับ พยายามซื้อหนังสือมาอ่าน  อ่านจบ อ่ะก็ใช้ joomla ต่อ รู้สึกง่ายกว่า

[~บอล~]

drupal ครับ หวานใจ...
WP เร็วดีครับ
Joomla ระบบดี ช้าหน่อย ต้อง Optimite

[jaras]

คราวนี้ถึงคราว joomla บ้างครับ

ข้อดีนะครับ
1. ระบบยืดหยุ่นได้ การปรับแต่งการแสดงผลด้านหน้าเว็บ จะแยกเป็น module และ component หากจะให้อธิบาย โมดูล ก็จะคล้ายกับ กล่องพิเศษ ที่เราสามารถกำหนดให้ script ต่างๆ มาแสดงในกล่องพิเศษนี้ได้ โดย module นี้ เราสามารถกำหนด เพิ่ม ลด จำนวนได้ไม่จำกัดครับ ดังนั้นหากเราต้องการใส่ป้ายโฆษณา อยู่เหนือ top 5 บทความมาใหม่ หรือ module อื่นๆ ก็ได้ ทำให้มีพื้นที่ในการขายโฆษณามากขึ้น หรือเว็บก็จะหลากหลายมากขึ้น เช่น เอากล่องแสดง slide show, ฟังเพลง online, ป้ายโฆษณา adsense ฯลฯ มาวางเกลี่ยๆ ให้เนียนๆ ก็ได้ครับ โดยแค่เรากำหนดตำแหน่ง module ในไฟล์ template แค่คำสั่งเดียว จบเลย  
2. สามารถเลือก template ให้แต่ละหน้าเว็บ แสดงผลแตกต่างได้ครับ เช่น หน้าหลัก เป็น template แบบ A พอหน้า about us ก็เป็น template B ไม่จำกัดจำนวนการเปลี่ยน template ครับ เราสามารถกำหนดได้ทุกหน้าเลยว่าแต่ละหน้าจะใช้ template ไหน ซึ่งถ้าเป็น wordpress ผมยังไม่รู้ว่าทำได้ไหม (เท่าที่รู้คือต้องโมขั้นเทพอีกเช่นกัน  )
3. การเขียน template ง่ายครับ เพราะใช้ภาษา html + คำสั่ง php เฉพาะของ joomla ซึ่งสามารถหาอ่านได้ในเว็บ joomla.org ครับ ขนาดโง่ๆ php แบบผมยังเขียน template ได้ ดังนั้น เพื่อนๆ ทำได้แน่นอนครับ หรือจะลองไปยืนอ่านหนังสือที่ผมเขียนเรื่องการสร้าง template ในร้าน se-ed, b2s, นายอินทร์ ก่อนก็ได้ครับ   (ขออภัย เนียนโฆษณา  )

ข้อเสีย
1. เว็บหนักครับ ถ้าคนเข้าเยอะๆ อาจจะโดนโฮสต์เตะออกได้ ที่เตะออกเพราะว่า database access มัน limit ครับ ผมเคยเจอกับตัวเองตอนทำเว็บไทย เช่าโฮสต์ที่ ipower มันเตะออกเพราะว่าเกิน 50,000 database access / ชั่วโมง ซึ่ง joomla ที่ทำเว็บไปสัก 30,000 บทความ มีทั้งระบบ comment, webboard มีคนเข้าสัก ชม. ละ 1000 uip มันก็เตะออกแล้วครับ สุดท้ายเลยต้องไปอยู่ gator เพราะมันไม่ limit ส่วนโฮสต์ไทย .. โดนเตะเช่นกัน
2. component หรือ script เพิ่มเติม ส่วนมากที่ดีๆ เจ๋งๆ มักจะเสียเงิน ก็ต้องหาตัวอื่นมาทดแทนครับ อาจจะไม่ได้ตรงตามความต้องการ 100% แต่ก็น่าจะพอถูไถครับ
3. บทความจะถูกบังคับให้เลือกว่า จะเขียนลงในหมวดไหน (category) ซึ่งหมวดนี้จะอยู่ในกลุ่มใด (section) ไม่สามารถเขียนบทความ 1 บทแต่อยู่ 2 category ได้ครับ

สรุป สำหรับ joomla จะเหมาะกับเว็บที่เป็นบริษัท ห้างร้าน ที่เคยใช้ html แบบเดิมๆ (photoshop + dream) หรือคนที่ต้องการหน้าเว็บในลักษณะกล่องๆ (ดูใน sanook จะรู้ครับว่า เป็นกล่องๆ ยังไง) หารายได้ง่าย เรียนรู้ระบบ joomla เป็น ถ้าคุณไปลองใช้ wordpress จะรู้ว่ามันง่ายมากกกก แต่ถ้าคนเป็น wordpress มาลอง joomla อาจจะงงๆ แต่... ที่ยากสุดก็คงจะเป็น drupal ครับ (นอกเรื่อง  ) เพราะตัวนี้ครบเครื่องกว่าครับ

[numau109]

เว็บหนักครับ ถ้าคนเข้าเยอะๆ อาจจะโดนโฮสต์เตะออกได้ ที่เตะออกเพราะว่า database access มัน limit ครับ ผมเคยเจอกับตัวเองตอนทำเว็บไทย เช่าโฮสต์ที่ ipower มันเตะออกเพราะว่าเกิน 50,000 database access / ชั่วโมง ซึ่ง joomla ที่ทำเว็บไปสัก 30,000 บทความ มีทั้งระบบ comment, webboard มีคนเข้าสัก ชม. ละ 1000 uip มันก็เตะออกแล้วครับ สุดท้ายเลยต้องไปอยู่ gator เพราะมันไม่ limit ส่วนโฮสต์ไทย .. โดนเตะเช่นกัน

ถามคุณจรัสครับ  ถ้าใช้ vps ก็จะไม่มีปัญหาเลย... ใช่มั้ยครับ 

[samabois]

คราวนี้ถึงคราว joomla บ้างครับ

ข้อดีนะครับ
1. ระบบยืดหยุ่นได้ การปรับแต่งการแสดงผลด้านหน้าเว็บ จะแยกเป็น module และ component หากจะให้อธิบาย โมดูล ก็จะคล้ายกับ กล่องพิเศษ ที่เราสามารถกำหนดให้ script ต่างๆ มาแสดงในกล่องพิเศษนี้ได้ โดย module นี้ เราสามารถกำหนด เพิ่ม ลด จำนวนได้ไม่จำกัดครับ ดังนั้นหากเราต้องการใส่ป้ายโฆษณา อยู่เหนือ top 5 บทความมาใหม่ หรือ module อื่นๆ ก็ได้ ทำให้มีพื้นที่ในการขายโฆษณามากขึ้น หรือเว็บก็จะหลากหลายมากขึ้น เช่น เอากล่องแสดง slide show, ฟังเพลง online, ป้ายโฆษณา adsense ฯลฯ มาวางเกลี่ยๆ ให้เนียนๆ ก็ได้ครับ โดยแค่เรากำหนดตำแหน่ง module ในไฟล์ template แค่คำสั่งเดียว จบเลย  
2. สามารถเลือก template ให้แต่ละหน้าเว็บ แสดงผลแตกต่างได้ครับ เช่น หน้าหลัก เป็น template แบบ A พอหน้า about us ก็เป็น template B ไม่จำกัดจำนวนการเปลี่ยน template ครับ เราสามารถกำหนดได้ทุกหน้าเลยว่าแต่ละหน้าจะใช้ template ไหน ซึ่งถ้าเป็น wordpress ผมยังไม่รู้ว่าทำได้ไหม (เท่าที่รู้คือต้องโมขั้นเทพอีกเช่นกัน  )
3. การเขียน template ง่ายครับ เพราะใช้ภาษา html + คำสั่ง php เฉพาะของ joomla ซึ่งสามารถหาอ่านได้ในเว็บ joomla.org ครับ ขนาดโง่ๆ php แบบผมยังเขียน template ได้ ดังนั้น เพื่อนๆ ทำได้แน่นอนครับ หรือจะลองไปยืนอ่านหนังสือที่ผมเขียนเรื่องการสร้าง template ในร้าน se-ed, b2s, นายอินทร์ ก่อนก็ได้ครับ   (ขออภัย เนียนโฆษณา  )

ข้อเสีย
1. เว็บหนักครับ ถ้าคนเข้าเยอะๆ อาจจะโดนโฮสต์เตะออกได้ ที่เตะออกเพราะว่า database access มัน limit ครับ ผมเคยเจอกับตัวเองตอนทำเว็บไทย เช่าโฮสต์ที่ ipower มันเตะออกเพราะว่าเกิน 50,000 database access / ชั่วโมง ซึ่ง joomla ที่ทำเว็บไปสัก 30,000 บทความ มีทั้งระบบ comment, webboard มีคนเข้าสัก ชม. ละ 1000 uip มันก็เตะออกแล้วครับ สุดท้ายเลยต้องไปอยู่ gator เพราะมันไม่ limit ส่วนโฮสต์ไทย .. โดนเตะเช่นกัน
2. component หรือ script เพิ่มเติม ส่วนมากที่ดีๆ เจ๋งๆ มักจะเสียเงิน ก็ต้องหาตัวอื่นมาทดแทนครับ อาจจะไม่ได้ตรงตามความต้องการ 100% แต่ก็น่าจะพอถูไถครับ
3. บทความจะถูกบังคับให้เลือกว่า จะเขียนลงในหมวดไหน (category) ซึ่งหมวดนี้จะอยู่ในกลุ่มใด (section) ไม่สามารถเขียนบทความ 1 บทแต่อยู่ 2 category ได้ครับ

สรุป สำหรับ joomla จะเหมาะกับเว็บที่เป็นบริษัท ห้างร้าน ที่เคยใช้ html แบบเดิมๆ (photoshop + dream) หรือคนที่ต้องการหน้าเว็บในลักษณะกล่องๆ (ดูใน sanook จะรู้ครับว่า เป็นกล่องๆ ยังไง) หารายได้ง่าย เรียนรู้ระบบ joomla เป็น ถ้าคุณไปลองใช้ wordpress จะรู้ว่ามันง่ายมากกกก แต่ถ้าคนเป็น wordpress มาลอง joomla อาจจะงงๆ แต่... ที่ยากสุดก็คงจะเป็น drupal ครับ (นอกเรื่อง  ) เพราะตัวนี้ครบเครื่องกว่าครับ

ข้อเปรียบเทียบนี้ สำหรับผู้ที่นำ script ไปใช้โดยมีทักษะด้าน php ไม่เก่งมาก (ไม่ใช่นักโมขั้นเทพ) นะครับ

ข้อดีของ wordpress
1. wordpress สามารถกำหนดบทความ 1 บท ให้อยู่ในหลากหลาย category ได้ แต่ joomla ได้แค่ 1 อัน / 1 บทความ
2. ตัว wordpress เอง (ไฟล์พื้นฐานที่มาจาก wordpres..org) มีฟังก์ชั่น comment, กำหนดชื่อ url ในแต่ละบทความได้เอง โดยไม่ต้องลง plugin เพิ่ม, search โหลดและ install plugin ที่อยากได้เพิ่มเติมได้เลยในหน้า admin โดยไม่ต้องเสียเวลาโหลดมาเก็บไว้ หรือ up ขึ้นโฮสอีกรอบ
3. มีระบบ auto update ทั้ง script wordpress ตัวหลักและ plugin ทุกตัวที่ลง ถ้ามีการ update กดคลิ๊กเดียว ก็ update เสร็จเลย (ง่ายมากๆ)
4. จำนวน database ที่ใช้ น้อยกว่าเมื่อเทียบกับ joomla ทำให้เวลาเรียกหน้าเว็บ จะรู้สึกได้ว่า wordpress เร็วกว่า joomla เล็กน้อย (ไม่นับรวมการปรับแต่งอื่นๆ ให้เว็บเร็วขึ้นนะครับ)
5. theme มีให้เลือกโหลดเยอะพอควร
6. การโพสบทความ สามารถใช้ software microsoft writer เขียนได้เลย (เหมือนเขียนใน word) แล้วก็ save ไว้ก่อน พอต่อเนตก็ค่อยให้มัน update ให้ ทำให้เราสามารถเตรียม content ไว้ล่วงหน้าได้เยอะมาก
7. auto ping สุดยอดเครื่องมือเด็ด ที่ชนะ joomla (แม้ว่า joomla จะมี plugin auto ping แต่สู้ wordpress ยังไม่ได้ครับ)

เอาละ มาดูข้อด้อยบ้าง
1. หากต้องการติดตั้งโฆษณา เช่น ป้ายโฆษณา banner, adsense ในแต่ละจุดของหน้าเว็บ ระบบ wordpress จะให้เราแก้ไขที่ theme ซึ่งถ้าไม่ใช่นักโมขั้นเทพ ก็จะได้แต่แปะป้ายเพียง ด้านบน ด้านข้าง (ซ้ายขวา) ด้านล่าง แต่หากต้องการแทรกตรงกลางหน้าเว็บ หรือทำให้หน้าเว็บเป็นแบบวาไรตี้ เป็นกล่องๆ (เหมือนในเว็บ sanook.com จะเห็นว่าเขาแบ่งเนื้อหาออกเป็นกล่องๆ ) อันนี้ถ้าไม่โมขั้นเทพ ก็ยากครับ 
2. การติดตั้ง script เพิ่มเติม เช่้น amazon, forum โดยมาก จะเป็นการเปิดหน้าใหม่ ไม่สามารถดึงผลการแสดงผลบางส่วนมาแสดงในหน้าหลักได้ เช่น หากเรามีการลง webboard ไว้ด้วย การจะดึง top 5 กระทู้ใหม่ มาวางในหน้าแรก ต้องแทรก code พิเศษลงไป (มือใหม่งงไปเลยครับ)
3. theme ของ wordpress เขียนยากกว่า joomla ครับ เพราะว่าเขียนหลายไฟล์มาก  อันนี้ผมเขียน template joomla ใช้เอง พอมาเจอ wordpress จะสังเกตได้เลยว่าใช้เวลามากกว่า joomla หลายเท่า เพราะว่าต้องเขียนหลายไฟล์มากขึ้น และเป็น php หมดครับ (ใครไม่เป็น php ก็เดี๊ยงไปอีก  )

สรุป สำหรับ wordpress นะครับ ถ้าไม่เก่งจริง การปรับแต่งให้สวยงามขั้นเทพ ถ้าไม่ซื้อ theme ที่เขาโมมาให้แล้วละก็ ยากครับที่จะสร้างเว็บสวยๆ ดูไร้กลิ่้นอายของ blog แต่ถ้าคุณต้องการอะไรที่ง่าย wordpress เลยครับ แต่หากต้องการทำเว็บเพื่อเน้นการขายโฆษณา ติด adsense หลากหลาย อาจจะยากไปนิด

ขอบคุณมากครับ

[washiravit]

สำหรับผม ผมใช้ทั้งสองตัวครับ
และเห็นได้ถึงความแตกต่างพอตัว

ซึ่งในกระทู้นี้มี guru ตอบไว้ละเอียดมากครับ

เเต่ผมเห็นชัดเลยว่าผมชอบ joomla มากกว่า เพราะง่ายต่อการเข้าใจ
ต่อให้ทำเว็บที่ซับซ้อนเเค่ไหน ก็เข้าใจง่าย เเยกประเภทง่าย

เเต่ถ้าเป็น wordpress ผมทำได้ดีที่สุดคือไดอารี่แบบบทความครับ

[tanawat30]

ผมใช้ Joomla  ก่อน  wordpress  พอใช้ wordpress  ก็มึนเลยครับ  Jommla  ง่ายกว่าอีกเสียง

[jaras]

ถามคุณจรัสครับ  ถ้าใช้ vps ก็จะไม่มีปัญหาเลย... ใช่มั้ยครับ 

ถ้าเป็นโฮสต์ไทย เขาก็จะบอกแบบนั้นแหละครับ ให้ไปเช่น vps แต่ถ้าเป็นโฮสต์นอก gator ยังเอาอยู่ครับ  เพราะพี่จระเข้เขาอึด 

[woratana]

อ่านกระทู้นี้แล้วต้องไปลอง Joomla มั่ง เล่นมาแต่ WP 

[metoo55]

ผมเคยเห็นเว็บไทยสวยๆ ที่ทำด้วย wp เป็นร้อยเว็บ แต่ไม่เคยเห็นเว็บไทยสวยๆ ที่ทำด้วย joomla เลยครับ ช่วยแชร์ให้ดูหน่อยจะขอบพระคุณหลายครับ 

[picharnan]

มาเชียร์ drupal ครับ

ผมเองก็เล่นมาหลายอย่างครับ เหอๆ
Joomla --> WP --> Drupal ผมยังหยุดไม่อยู่ครับคิดว่าแค่ drupal ยังหล่อไม่พอ
ลงไปเล่น Codigniter อีก  รู้สึกว่านอกเรื่องไปแล้ว


จากที่อ่านดู จขกท. คงเป็นมือใหม่อยู่ผมแนะนำ WP เลยครับ  อีกอย่างคนเล่นเยอะมากด้วย

 

เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้ครับ

[Parkker]

ผมเคยเห็นเว็บไทยสวยๆ ที่ทำด้วย wp เป็นร้อยเว็บ แต่ไม่เคยเห็นเว็บไทยสวยๆ ที่ทำด้วย joomla เลยครับ ช่วยแชร์ให้ดูหน่อยจะขอบพระคุณหลายครับ 

ที่ผมเห็นมาก็มีนี้แหละครับที่ชอบ

http://scanidea.com